หุ้นปิดเช้าลบ 2.48 จุด ท่ามกลางปัจจัยเดิมไวรัสระบาด งบฯ ปี 63 ล่าช้า และปัญหาภัยแล้ง ขณะที่นักลงทุนปรับพอร์ตกลุ่มค้าปลีกก่อน CRC เทรด แนวโน้มภาคบ่ายคาดตลาด คงแกว่งย่ำฐาน โดยมีแนวรับ 1,516 จุด ส่วนแนวต้าน 1,530 จุด พร้อมแนะนำให้"เก็งกำไร"หุ้นที่ปรับตัวลงไปแรง โดยเทียบกับ P/BV 3 ปี ย้อนหลัง อย่าง BBL, WHA, STEC, SCB, AMATA เป็นต้น
นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด บล.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้าได้ปรับตัวขึ้นตอบรับแผนซื้อหุ้นคืนของหลายบริษัทฯที่ประกาศออกมา ทั้ง SPALI, KBANK, TPIPL, CK ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่าราคาหุ้นต่ำเกินไปและบริษัทมีสภาพคล่องส่วนเกิน ทำให้ Sentiment ดูดี แต่ในเวลาต่อมาเผชิญแรงขายที่ค่อนข้างผิดสังเกตุ โดยหุ้นนกลุ่มค้าปลีกย่อตัวลง มองว่าอาจเป็นการปรับพอร์ตก่อนหุ้น บมจ.เซ็นทรัลรีเทลคอร์ปอเรชั่น (CRC) จะเข้ามาเทรดในอีกไม่นานนี้ คงเป็นลักษณะของการปรับน้ำหนักการลงทุนมากกว่า
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เริ่มยืนได้โดยต่างก็เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ แต่ตลาดในกลุ่ม TIP ต่างก็ติดลบ โดยตลาดบ้านเราอยู่ท่ามกลางปัจจัยลบเดิมๆ ทั้งการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา, ความล่าช้าของงบประมาณ ปี 63, ภัยแล้ง เป็นต้น อย่างไรก็ดี ให้ติดตามการประชุมคณกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 5 ก.พ.นี้ อาจมีการส่งสัญญาณการเพิ่มโอกาสกระตุ้นเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดการซื้อขายครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,521.51 จุด ลดลง 2.48 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.16% มูลค่าการซื้อขาย 25,837.76 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายพิชัย กล่าวว่า ตลาดฯ คงแกว่งย่ำฐาน โดยมีแนวรับ 1,516 จุด ส่วนแนวต้าน 1,530 จุด พร้อมแนะนำให้"เก็งกำไร"หุ้นที่ปรับตัวลงไปแรง โดยเทียบกับ P/BV 3 ปี ย้อนหลัง อย่าง BBL, WHA, STEC, SCB, AMATA เป็นต้น