บลจ.แอสเซทพลัสมองหุ้นไทยปี 63 ยังสดใส จากปัจจัยบวกดอกเบี้ยระดับต่ำ ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนายังต้องติดตามใกล้ชิด พร้อมมองกรอบดัชนีหุ้นไทยไตรมาสแรก 1,500 จุด
นายคมสัน ผลานุสนธิ กรรมการบริหาร ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาดและผลิตภัณฑ์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) แอสเซท พลัส จำกัด ระบุถึงสถานการณ์ตลาดหุ้นไทยไตรมาส 1 ยังมีปัจจัยเสี่ยงจากไวรัสโคโรนาระบาด ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยว ทำให้ตัวเลขเศรษฐกิจไทยไตรมาส 1 อาจออกมาไม่ดีนัก โดยประเมินดัชนีหุ้นไทยยังเคลื่อนไหวบวกลบอยู่ในกรอบ 1,500 จุด แต่ต้องติดตามว่าการระบาดของไวรัสโคโรนาจะยืดเยื้อกินเวลาแค่ไหน และรัฐบาลจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหรือไม่ จึงแนะนักลงทุนถือเงินสดมากขึ้น และอาศัยจังหวะเข้าซื้อหุ้นในช่วงตลาดแพนิค โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มที่ยังให้ผลตอบแทนสูง โดยมองหุ้นปันผลเด่น คือ กลุ่มกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน กองทุนอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มโรงไฟฟ้า ซึ่งเป็นกลุ่มที่ผลตอบแทนสม่ำเสมอและมีความแน่นอน
ขณะที่ภาพรวมตลาดหุ้นไทยปี 2563 ยังมีความสดใส จากปัจจัยบวกเรื่องของอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ที่มองว่าจะทรงตัวในระดับต่ำหรือลดลง โดยมองกรอบดัชนีทั้งปี 1,600 - 1,650 จุด และกรอบล่างอยู่ที่ 1,450 - 1,500 จุด ขณะที่ Fund Flow มองว่าจากการที่สิทธิประโยชน์ทางภาษีในกองทุน LTF หมดลง ทำให้เงินไหลเข้าจะลดเหลือ 10,000-20,000 ล้านบาท จากก่อนหน้านี้ 40,000-50,000 ล้านบาท และยังมองไม่เห็นปัจจัยเด่นใดที่จะดึงเม็ดเงินจากนักลงทุนต่างชาติ เมื่อเทียบกับความน่าสนใจของตลาดอื่นในเอเชีย ทั้งจีน อินเดีย และเวียดนาม ที่ตัวเลขจีดีพีเติบโตดีกว่าไทย อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยยังมีน้ำหนักให้นักลงทุนไม่รีบเทขาย จากการให้ปันผลที่ยังอยู่ในระดับค่อนข้างสูง แต่หากตลาดอื่นให้ผลตอบแทนสูงกว่า นักลงทุนก็อาจเทขาย เพื่อย้ายการลงทุนได้ ดังนั้น จึงเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องเร่งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ