ตลาดหุ้นปรับตัวลงมาติดต่อ 6 วันทำการแล้ว ฉุดดัชนีราคาหุ้น ตลาดหลักทรัพย์ทรุดลงไปม้วนเดียว 76.33 จุด จากระดับ 1,600.48 จุด ร่วงลงมาปิดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ระดับ 1,524.15 จุด และไม่อาจประเมินได้ว่า จุดต่ำสุดของวิกฤตเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่รอบนี้อยู่ที่ใด
นักลงทุนรายใหญ่ทุกกลุ่มทยอยขายหุ้นออกมาตลอด นับจากเริ่มการแพร่ระบาดของเชื้อร้ายจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน แต่ นักลงทุนรายย่อย กลับเข้ามาช้อนซื้อหุ้น โดยมองว่า ระดับราคาหุ้นลงมาลึก ซึมซับรับข่าวร้ายไวรัสสายพันธุ์ใหม่จากเมืองอู่ฮั่นของจีนไปแล้ว จึงเข้ามาซื้อหวังดักเก็งกำไร เมื่อหุ้นดีดตัวกลับ
แต่หุ้นกลับปักหัวลงต่อเนื่อง จนรายย่อยแบกหุ้นต้นทุนสูงกันเป็นแถว
ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัส โคโรนาเกิดขึ้นทั่วโลก และไม่เฉพาะตลาดหุ้นเท่านั้นที่ปั่นป่วน ราคาน้ำมันก็ผันผวน ปรับตัวลงรุนแรง 4 วันติด อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทรุด เศรษฐกิจทั่วโลกระส่ำระสาย เศรษฐกิจไทยได้รับแรงกระแทกซ้ำเติม
ไม่อาจทำนายได้ว่า ดัชนีหุ้นจะลงไปอีกเท่าใด แต่ ประเมินกันในเบื้องต้น ระดับ 1,500 จุด อาจยืนไม่อยู่
หุ้นที่รูดลงแรงเมื่อวันจันทร์กว่า 45 จุด เป็นไปตามสถานการณ์การลุกลามของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งแพร่ระบาดในวงกว้างมากขึ้น จำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกพุ่ง จำนวนผู้เสียชีวิตมีอัตราเร่ง และกลายเป็นตัวเลขที่น่าตื่นตระหนก
วิกฤตไวรัสจากเมืองอู่ฮั่นคงไม่จบลงง่ายๆ ผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและการลงทุนจะบานปลาย จนต้องปรับประมาณการอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจหรือจีดีพีกันใหม่ รวมทั้งทบทวนเป้าหมายดัชนีหุ้นในปีนี้
หุ้นที่จะถูกกระทบจากวิกฤตไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ไม่จำกัดเฉพาะหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเท่านั้น เพราะหุ้นกลุ่มพลังงานถูกถล่มตามมาแล้ว และถ้าจีดีพีหดตัวลง หุ้นแทบทุกกลุ่มจะถูกฉุดไปด้วย
ราคาหุ้นขณะนี้ลงมาสู่จุดที่น่าสนใจ จนนักลงทุนรายย่อยบางส่วนทนความเย้ายวนไม่ไหว ทยอยเข้ามาช้อนเก็บ เพราะคิดว่าราคาไม่น่าจะปรับตัวลงต่อ หรือถ้าจะลงคงลงอีกมาก จึงเป็นโอกาสที่จะซื้อหุ้นราคาถูก
แต่ตลอด 6 วันทำการที่ผ่านมา พิสูจน์แล้วว่า การรีบร้อนช้อนซื้อหุ้น เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด เพราะราคาหุ้นที่คิดว่าถูกแล้ว พรุ่งนี้กลับถูกกว่า
วิกฤตไว้รัสจาก “อู่ฮั่น” เพิ่งเริ่มต้น ผลกระทบในทุกด้านจึงเป็นเพียงผลกระทบเริ่มต้น และกำลังลุกลามบานปลาย ซึ่งไม่อาจประเมินระดับความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจโลกได้
ตลาดหุ้นก็เช่นเดียวกัน วิกฤตที่เกิดขึ้นเพิ่งเริ่มต้นเหมือนกัน จึงไม่ควรมองโลกในแง่ดีเกินไป หรือเห็นว่าวิกฤตที่กำลังเกิดขึ้นเป็นโอกาส ราคาหุ้นที่ดิ่งลง เป็นจังหวะที่ดีในการซื้อของถูก แต่จะต้องตระหนักในความเสี่ยงบนสถานการณ์ที่ไม่มีความแน่นอน
โอกาสในการช้อนหุ้นราคาถูกยังมีอยู่ แต่ไม่ใช่เวลานี้ เพราะจะต้องรอให้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสงบ หรือสามารถควบคุมการแพร่ระบาด รวมทั้งการผลิตวัคซีนป้องกัน หรือคิดค้นยารักษาได้ ซึ่งจะยุติความตื่นตระหนกของทั่วโลก
แม้ดัชนีหุ้นทรุดลงไป 76 จุดแล้ว แต่การปรับฐานครั้งใหญ่ของตลาดหุ้นมีแนวโน้มที่จะดำเนินต่อไป และไม่อาจคาดหมายได้ว่า ดัชนีหุ้นจะไหลลงลึกถึงจุดไหน
กลยุทธ์การลงทุนดีที่สุดในสถานการณ์ปัจจุบันคือ เฝ้าสังเกตการณ์ รอประเมินทิศทางการลงทุน โดยกำเงินสดไว้ให้แน่น
และรอจนกว่าสัญญาณการสิ้นสุดการปรับฐาน รอสถานการณ์เชื้อร้าย “อู่ฮั่น” คลี่คลาย
ถ้าทั้งโลกยังฝุ่นตลบจากเชื้อร้ายสายพันธุ์ใหม่ อย่าผลีผลามช้อนหุ้น
