หุ้นปิดเช้าบวก 7.38 จุด รีบาวนด์หลังร่วงแรงสวนทางภูมิภาค นักลงทุนยังเกาะติดสถานการณ์ไวรัสโคโรนาระบาด แนวโน้มภาคบ่ายคาดตลาดยังมีโอกาสที่จะเคลื่อนไหวในแดนลบได้
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้รีบาวนด์หลังปรับตัวลงแรงเมื่อวานนี้ และยังดูดีกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างติดลบ โดยเฉพาะตลาดที่เพิ่งกลับมาเปิดเทรดหลังปิดตรุษจีน อย่างตลาดหุ้นเกาหลีปรับตัวลง 3.2% แต่ทั้งนี้ตลาดฯ ปรับตัวขึ้นไปก็มีโอกาสจะถูกขายออกมา เนื่องจากยังไม่ไว้วางใจและยังต้องติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนาที่ล่าสุดจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้ต้องสงสัยจะติดเชื้อ รวมถึงผู้เสียชีวิตก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ พรุ่งนี้ (29 ม.ค.) ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาว่าจะรับหรือไม่รับวินิจฉัยกรณีที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เสียบบัตรแทนกันในการลงมติร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 หากรับคงจะต้องใช้ระยะเวลาวินิจฉัยราว 15-30 วัน แต่ถ้าไม่รับก็จบไป และคาดว่าหุ้นจะปรับตัวขึ้นด้วย เพราะความกังวลเรื่องความล่าช้าของงบประมาณเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ตลาดปรับตัวลง
นอกจากนี้ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะมีการประชุมในวันที่ 30 ม.ค.นี้ ซึ่งตลาดคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ย แต่ต้องจับตาเรื่อง Repo จะเป็นอย่างไร และติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่อไป
ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดการซื้อขายครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,531.53 จุด เพิ่มขึ้น 7.38 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.48% มูลค่าการซื้อขาย 28,092.54 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายศราวุธกล่าวว่า ตลาดฯ ยังมีโอกาสที่จะเคลื่อนไหวในแดนลบได้ โดยมีแนวรับ 1,510 จุด ส่วนแนวต้าน 1,537-1,540 จุด