ซีไอเอ็มบีไทยเปิดแผนปี 63 พร้อมเดินหน้าหลังได้ซีอีโอใหม่ใหม่ ตั้งเป้าสินเชื่อโต 10% เน้นรายใหญ่-รายย่อย พร้อมเดินหน้าให้บริการผ่าน Digital Platform ขณะที่ NPL ตั้งเป้ากดต่ำกว่า 5% และลดจำนวนสาขาเหลือ 50 จากเดิม 69
นายอดิศร เสริมชัยวงศ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย(CIMBT)เปิดเผยถึงแผนงานในปี 2563 ว่า ธนาคารได้ตั้งเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อเฉลี่ย 10% โดยสินเชื่อรายย่อยตั้งเป้าเติบโต 8% เนื่องจากยังคงระมัดระวังในส่วนของสินเชื่อบ้าน และสินเชื่อรายใหญ่เติบโต 12-13% ขณะที่กำไรจากการเติบโต 20% รวมทั้งธนาคารได้ปรับลดพอร์ตเอสเอ็มอีที่มีความเสี่ยงสูงลงมาเหลือ 26,000 ล้านบาท จาก 5 ปีก่อนที่ 50,000 ล้านบาท ส่วนพอร์ตสินเชื่อรายย่อยที่มียอดคงค้าง ณ สิ้นไตรมาส 3 ที่ 139,000 ล้านบาท เป็นสินเชื่่อบ้าน 64%,สินเชื่อไม่มีหลักประกัน 8%
ทั้งนี้ จากการปรับโครงสร้างดังกล่าวทำให้สัดส่วนรายได้ปัจจุบันของธนาคารมีความสมดุลมากขึ้น โดยรายได้ 67%จากรายได้รวมมาจากลูกค้ารายย่อย, 14%จากลูกค้ารายใหญ่ ,12%จากธุรกิจปริวรรตเงินตรา ,8%จากลูกค้าขนาดกลาง และ1%จาก Private Banking ซึ่งถือว่าธุรกิจของธนาคารมีความหลากหลายและกระจายความเสี่ยงได้ดีขึ้น ขณะที่สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล)ในปี 2563 น่าจะต่ำกว่าระดับปัจจุบันที่ 5% จาก 2 ปัจจัยด้วยกัน คือสินเชื่อที่จะเติบโตขึ้น และการตัดขายออกไป ประกอบกับการปรับพอร์ตของธนาคารให้สมดุลขึ้นดังกล่าวก็ช่วยให้ความเสี่ยงลดลงด้วย แต่การกันสำรองค่าเผื่อหนี้สูญน่าจะเพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของสินเชื่อ
ด้านกลยุทธการดำเนินธุรกิจนั้น ในส่วนของรายย่อยเน้นการให้บริการผ่าน Digital Platform ให้ได้ 100% โดยเน้น Data Analytic มากขึ้น ด้วยการนำข้อมูลมาใช้ให้เป็นประโยชน์กับลูกค้าอย่างแท้จริง การพัฒนาระบบให้เพิ่มความสะดวกกับลูกค้ากลุ่ม Wealth มากขึ้น อาทิ การจองหุ้นกู้ หรือการซื้อกองทุนผ่านแอปพลิเคชั่น เป็นต้น โดยในปี 2563 ตั้งเป้าหมายเพิ่ม Digital Saving Account จำนวน 500,000 บัญชี จากลูกค้าปัจจุบันที่ 500,000-600,000 บัญชี ที่ใช้ช่องทาง Digitalเพียง 5% และเพิ่มสัดส่วน Digital Lending ในส่วนของสินเชื่อบุคคลเป็น 42%ของพอร์ตจำนวน 7,000-8,000 ล้านบาท จากปี 2562 ที่มีสัดส่วน 14%
ส่วนลูกค้ารายใหญ่ธนาคารวางแนวคิด"Go To Bank For Asean Sulotions" ที่จะนำลูกค้าออกไปลงทุนในต่างประเทศมากขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มอาเซียนจากจุดแข็งของกลุ่มซีไอเอ็มบีที่จะมีความเชี่ยวชาญและมีเครือข่ายที่เข้มแข็งในภูมิภาคนี้โดยตั้งเป้าหมาย รายได้จาก Joint Venture เป็น 1,362 ล้านบาท จากปีนี้ที่ 922 ล้านบาท รวมถึงการเพิ่มธุรกรรม Trancection Bankint ในธุรกิจรับ-จ่าย-โอนต่างประเทศ ซึ่งจะมีการเชื่อต่อกับ New Bank หรือ Fintechs เพิ่มขึ้น และสานต่อ QR Payment For Asean จากก่อนหน้านี้ที่ได้เชื่อมกับประเทศมาเลเซียไปแล้ว
"หลังจากที่ธนาคารได้วางโครงสร้างพื้นฐานและการทำงานเกี่ยวกับ Digital มาอย่างเต็มที่ตลอด 2-3 ปีก่อน ในปี 2563 จะได้เห็นบริหารด้าน Digital Banking ของธนาคารอย่างชัดเจน และในระยะถัดไปธนาคารก็จะให้ความสำคัญในเรื่องของ Data Analytic เพื่อนำมาใช้เป็นประโยชน์กับลูกค้ามากขึ้น อาทิ การคิดดอกเบี้ยสำหรับลูกค้าที่มีประวัติการชำระหนี้ที่ดี กับลูกค้าที่มีประวัติค้างชำระ เป็นต้น ซึ่งต้องใช้งบลงทุนในระดับที่สูงเช่นกัน แต่ทาง CIMB กรุ๊ป ได้ทำระบบรวมเพื่อรองรับไว้แล้ว ขณะเดียวกัน นโยบายด้านสาขานั้น ก็ยังคงดำรงอยู่ แต่ปรับรูปแบบและลดลงในบางจุด โดยในปีหน้าจำนวนสาขาจะเหลือ 50 สาขา จากปี 62 ที่ 69 สาขา"
สำหรับในปี 2562 นี้ ถือว่าเป็นปีที่ผลประกอบการของธนาคารออกมาดีมากซึ่งเป็นผลมาจาการการดำเนินตามโครงการ Fast Forward ใน 2 ปีที่ผ่านมา โดยคาดการณ์ว่า ณ สิ้นปี 2562 จะมีรายได้จากการดำเนินงาน 1,842 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 619% มีรายได้รวม 13,983 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.4% และการกันสำรองค่าเผื่อหนี้สูญลดลง 49.1%
นายอดิศรกล่าวอีกว่า ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาถือเป็นการปรับโครงสร้าง-แก้ปัญหาภายใน ซึ่งจะเห็นได้จากพอร์ตของธนาคารที่กระจายมากขึ้น เอ็นพีแอลที่มีแนวโน้มลดลงอีก ในปีหน้าจึงมีความพร้อมที่จะเดินหน้าผลักดันธุรกิจให้ไปต่ออย่างเต็มที่ แต่ก็ยังมีความระมัดระวัง เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังมีความเสี่ยงทั้งด้านสงครามการค้าที่เริ่มลุกลามไปถึงภาคการผลิต เศรษฐกิจโลกที่โตไม่มากนัก ขณะที่ปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้แก่ การย้ายฐานการผลิตจากต่างประเทศ การลงทุนภาครัฐ และการท่องเที่ยว โดยกลุ่มธุรกิจที่น่าจะไปได้ดีก็เป็นกลุ่มดังกล่าวและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ส่วนกลุ่มที่ยังน่าห่วงเป็นกลุ่มเกษตรที่รายได้ผลิตผลยังไม่ดีนัก
อนึ่ง นายอดิศร เสริมชัยวงศ์เข้าดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย(CIMBT)แทนนายกิตติพันธ์ อนุตรโสตถิมีผลตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคม 2562 เป็นต้นไป โดยนายอดิศรเข้าร่วมงานกับกลุ่มซีไอเอ็มบีมาเป็นระยะเวลา 7 ปี ก่อนได้รับการแต่งตั้งครั้งนี้ดำรงตำแหน่งรักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และดำรงตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุดธุรกิจรายย่อยตามลำดับ