จากกรณีข่าวที่ระบุว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มอบหมายให้กรมท่าอากาศยานทำการศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดเก็บค่าธรรมเนียมผู้โดยสารขาออก (PSC) จากสนามบิน 6 แห่งที่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) บริหารจัดการอยู่เข้าบัญชีเงินทุนหมุนเวียนกรมท่าอากาศยานนั้น ทางบทวิเคราะห์ของ 3 บริษัทหลักทรัพย์ ได้ประเมินผลกระทบต่อกรณีดังกล่าวเอาไว้ดังนี้
บล.กสิรกรไทย ประเมินว่า กรณีนี้คาดว่ากรมท่าอากาศยานจะขอให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความข้อกฎหมายตามพระราชบัญญัติการเดินอากาศ มาตรา 60/43 ว่าใช้ได้กับสนามบิน 6 แห่งที่ AOT ดูแลอยู่หรือไม่ ซึ่งมีมุมมองเชิงลบต่อข่าวดังกล่าวเพราะอาจก่อให้เกิด downside risk ต่อราคาเป้าหมายและประมาณการกำไรได้
โดยเชื่อว่าประเด็นสำคัญที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาจะพิจารณาคือ 1) สนามบิน 6 แห่งของ AOT นั้นเป็นส่วนหนึ่งของสินทรัพย์ที่จดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์ ต่างจากสนามบิน 29 แห่งของกรมท่าอากาศยานที่เป็นรัฐวิสาหกิจ 100% 2) เพื่อตรวจสอบว่า พ.ร.บ. ดังกล่าวใช้ได้กับทุกสนามบินในประเทศไทยซึ่งรวมถึง 3 สนามบินของ BA หรือไม่ และ 3) พ.ร.บ. ดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อกิจการร่วมค้าโครงการอู่ตะเภาอย่างไร ในกรณีที่เลวร้ายที่สุดคือการที่กรมท่าอากาศยานเรียกเก็บเงินจาก PSC ของ AOT ในอัตราส่วน 10% เข้าบัญชีเงินทุนหมุนเวียน
ราคาเป้าหมายสิ้นปี FY2563 ของเราจะลดลงเหลือ 82.10 บาท และก่อให้เกิด downside risk ต่อประมาณการกำไรปี FY2563-64 ของเราในระดับ 5.2% และ 4.9%
ด้าน บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่า มีมุมมอง Negative โดยประเด็นข้างต้นทำให้ AOT มีความเสี่ยงต้องแบ่งรายได้ PSC เข้ากองทุนหมุนเวียนของกรมท่าอากาศยาน ทำให้กำไรสุทธิและราคาเป้าหมาย (TP20F) ของ AOT มี Downside risk -3% ถึง -8% และ -3% ถึง -6% ตามลำดับ
อย่างไรก็ดี หากรัฐฯ มีการใช้เงินทุนหมุนเวียนของกรมท่าอากาศยานอย่างมีประสิทธิภาพเชื่อว่าจะช่วยให้อุตฯ การบินไทยมีศักยภาพในการแข่งขันสูงขึ้น ทั้งนี้ ประเด็นข้างต้นยังต้องกฤษฎีกาตีความก่อน
โนมูระ ประเมินเป็น 3 Scenarios ประกอบด้วย 1) กฤษฎีกาตีความว่ากฎหมายข้างต้นไม่รวมถึงสนามบินของ AOT ประเด็นข้างต้นจะไม่มีผลต่อกำไรสุทธิและราคาเป้าหมายของ AOT 2) กฤษฎีกาตีความว่ากฎหมายข้างต้นรวมสนามบินของ AOT ด้วย และรัฐมนตรีฯ กำหนดให้ AOT แบ่งรายได้ PSC ในสัดส่วน 5% เข้ากองทุนหมุนเวียนฯ จะทำให้กำไรสุทธิและราคาเป้าหมาย (TP20F) มี Downside risk -3% ถึง -4% และ -3% ตามลำดับ และ 3) กฤษฎีกาตีความว่ากฎหมายข้างต้นรวมสนามบินของ AOT ด้วย และรัฐมนตรีฯ กำหนดให้ AOT แบ่งรายได้ PSC ในสัดส่วน 10% เข้ากองทุนหมุนเวียนฯ จะทำให้กำไรสุทธิและราคาเป้าหมาย (TP20F) มี Downside risk -6% ถึง -8% และ -6% ตามลำดับ (Exhibit 1)
ส่วน บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ข่าวดังกล่าวของ AOT ทำให้วิตกกำไรปี 63 ถูกกระทบหากต้องแบ่งรายได้จัดเก็บค่าบริการผู้โดยสารขาออก (Passenger Service Charge : PSC) เข้ากองทุนหมุนเวียนกรมท่าอากาศยาน
ทั้งนี้ ประเด็นดังกล่าวนักลงทุนได้เทขายหุ้นออกมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบทำให้ราคาหุ้น AOT วันนี้ (9 ธ.ค.) ปรับตัวลดลงตั้งแต่เปิดการซื้อขายภาคเช้า โดยราคาแตะระดับต่ำสุดที่ 72.50 บาท สูงสุดที่ 73.25 บาท ก่อนจะปิดการซื้อขายที่ 73.00 บาท ลดลงจากวันก่อนหน้า 2.25 บาท หรือ 2.99%