กรุงศรีฯ หั่นจีดีพีปีนี้เหลือโตร้อยละ 2.4 ส่วนปีหน้าดีขึ้นโตร้อยละ 2.5 คาดดอกเบี้ยนโยบายจะต่ำเป็นประวัติการณ์ที่ร้อยละ 1 ขณะที่ค่าเงินบาทยังมีแนวโน้มแข็งค่า คาดว่าอยู่ที่ 30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐในปี 63
นายสมประวิณ มันประเสริฐ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานวิจัยและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารปรับลดอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปีนี้เหลือโตร้อยละ 2.4 จากเดิมโตร้อยละ 2.9 หลังจากตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3 ออกมาต่ำกว่าที่คาด ส่วนการส่งออกปีนี้คาดว่าติดลบร้อยละ 2.5 จากเดิมคาดว่าติดลบร้อยละ 2.8 เนื่องจากการส่งออกช่วงไตรมาส 4 เริ่มดีขึ้น ตามภาวะการผลิตหลายประเทศเริ่มดีขึ้น
ส่วนปี 2563 จีดีพีโตร้อยละ 2.5 ลดลงจากคาดการณ์เดิมที่ร้อยละ 3.5 ซึ่งแม้ว่าเศรษฐกิจปีหน้าจะดีกว่าปีนี้ แต่ยังอยู่ในภาวะชะลอตัว โดยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกเป็นปัจจัยหนุน ทำให้ปี 2563 คาดว่าส่งออกจะขยายตัวได้ร้อยละ 1.5 ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนการฟื้นตัวยังไม่แน่นอน ความคืบหน้าของการลงทุนภาครัฐไม่ได้เป็นไปตามคาด
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยังสามารถใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายการคลังเพิ่มเติมได้ เช่น การให้ประชาชนนำค่าใช่จ่ายสินค้า-บริการ มาลดหย่อนภาษี จากปัจจุบันรัฐบาลออกมาตรการบรรเทา ผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ส่วนนโยบายการเงิน คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะลดอัตราอีกร้อยละ 0.25 ช่วงไตรมาส 1/2563 ซึ่งจะทำให้ดอกเบี้ยต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ร้อยละ 1 ขณะที่ค่าเงินบาทยังมีแนวโน้มแข็งค่า คาดว่าอยู่ที่ 30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐในปี 2563
“เศรษฐกิจไทยอยู่ในภาวะเติบโตชะลอลง แต่ไม่ถึงขั้นวิกฤติ อาจจะมีลูกคลื่นขึ้นลงบ้าง เพราะอยู่ในช่วงเศรษฐกิจขาลง ดังนั้น จึงต้องเดินแบบระมัดระวัง ซึ่งเชื่อว่าเมื่อเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวปี 2563 เศรษฐกิจไทยก็จะเริ่มดีขึ้น โดยคาดว่าจะเห็นผลที่ชัดเจนปี 2564” นายสมประวิณ กล่าว