"บิ๊ก คาเมร่า" ประเมินปลายปีนี้ภาพรวมตลาดกล้องถ่ายภาพกลับมาคึกอีกครั้ง เหตุเป็นช่วงไฮซีซั่น พร้อมรับอานิสงส์มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ และงานโฟโต้แฟร์ 2019 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 พ.ย.-1 ธ.ค. 2562 ช่วยฟื้นกำลังซื้อ หนุนยอดขายพุ่ง ผู้บริหารมั่นใจผ่านจุดต่ำสุดของอุตสาหกรรมแล้ว ขณะผลงานงวด 9 เดือนมีรายได้รวมอยู่ที่ 3,320.8 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 162.5 ล้านบาท
นายธนสิทธิ์ เธียรกาญจนวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บิ๊ก คาเมร่า คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือBIG เปิดเผยว่าสถานการณ์โดยรวมของอุตสาหกรรมกล้องถ่ายภาพในไตรมาส 4/62 กลับมาคึกคัก เนื่องจากมีปัจจัยสนับสนุนหลายเรื่อง โดยเฉพาะเป็นฤดูกาลของธุรกิจที่จะคึกคักในไตรมาสที่ 1 และ 4 ของทุกปี และสินค้าใหม่ที่ทยอยเข้าสู่ตลาด
ขณะเดียวกัน ยังมีงานใหญ่ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีคือ "งานโฟโต้แฟร์ 2019" โดยปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 30 ระหว่างวันที่ 27 พ.ย.-1 ธ.ค. 2562 ณ ศูนย์นิทรรศการ และการประชุมไบเทค บางนา และผู้ประกอบการเตรียมจัดโปรโมชั่นอย่างคึกคัก
รวมทั้งยังได้รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเร่งด่วนของภาครัฐ เช่น มาตรการ ชิมช้อปใช้ เฟส 3 โดยให้สิทธิประโยชน์ในการรับ Cash Back หากนำเงินใส่กระเป๋าที่ 2 มาใช้จ่ายใน 30,000 บาทแรก ได้เงินคืน 15% หรือได้คืนสูงสุดไม่เกิน 4,500 บาท และ 20% เมื่อใช้จ่ายเงินตั้งแต่ 30,001-50,000 บาท หรือได้คืนสูงสุดไม่เกิน 4,000 บาท ดังนั้น น่าจะช่วยสนับสนุนทำให้กำลังซื้อเพิ่มมากขึ้นด้วย
"ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา สถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมชะลอตัวทำให้กำลังซื้อลดลง แต่ในไตรมาสสุดท้ายน่าจะปรับตัวดีขึ้นได้ เพราะโดยปกติจะเป็นช่วงไฮซีซั่นอยู่แล้ว ขณะเดียวกันน่าจะยังได้รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐในครั้งนี้อีกด้วย”
นายธนสิทธิ์ กล่าวอีกว่า นโยบายการบริหารงานของบริษัทในปี 2562 มุ่งเน้นในเรื่องการบริหารต้นทุนค่าใช้จ่ายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำกำไร ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควร เพราะสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมยังคงชะลอตัวส่งผลให้กำลังซื้อลดลง ซึ่งปัจจุบันเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น และเชื่อว่าปีนี้จะเป็นจุดต่ำสุดของอุตสาหกรรม ที่สำคัญคือเมื่อบริษัทฯ มีความพร้อมในการควบคุมต้นทุนได้ดี ก็จะช่วยให้ผลประกอบการฟื้นตัวอย่างชัดเจน
สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือน มีรายได้รวมอยู่ที่ 3,320.8 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิเท่ากับ 162.5 ล้านบาท ขณะที่ไตรมาส3/62 มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,013.8 ล้านบาท และกำไรสุทธิอยู่ที่ 20.5 ล้านบาท