กระบี่ - จังหวัดกระบี่ก็มีแล้วนะ! TAXI OK ภายใต้มาตรฐาน “รับทุกท่าน ไปทุกที่ ราคาเป็นธรรม สร้างทางเลือกใหม่ให้คนใช้บริการ มั่นใจไม่ปฏิเสธรับผู้โดยสารแน่”
วันนี้ (6 ก.พ.) นางลัดดาวัลย์ ชิณณะเสถียร ขนส่งจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า จังหวัดกระบี่เป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดรถบริการสาธารณะทั้งถูกกฎหมาย และผิดกฎหมายตามมาเป็นจำนวนมากวิ่งให้บริการนักท่องเที่ยว เดินทางไปท่องเที่ยวยังสถานที่ต่างๆ บางครั้งมีการแย่งชิงผู้โดยสารกันถึงขั้นข่มขู่ทำร่างกายกันก็ยังมี นอกจากนี้แล้ว ผู้ประกอบการบางรายที่เห็นนักท่องเที่ยวเป็น “เหยื่อ” ก็มีการเรียกเก็บอัตราค่าโดยสารที่สูงลิ่วแพงเกินจริง ซึ่งมีการร้องเรียนกันอยู่บ่อยครั้ง
ขนส่งจังหวัดกระบี่ กล่าวด้วยว่า เพื่อยกระดับมาตรฐานการบริการ และความปลอดภัยของรถแท็กซี่ ให้ผู้โดยสารมีทางเลือกในการใช้บริการระบบรถสาธารณะที่ดี มีคุณภาพ ราคาเป็นธรรม และเข้าถึงได้สะดวก ประกอบกับเพื่อรองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยวที่นิยมเดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่
สำนักงานขนส่งจังหวัดกระบี่ จึงได้ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการรถแท็กซี่มิเตอร์ ในจังหวัดกระบี่ เข้าร่วมโครงการฯ ขับเคลื่อนนโยบายการพัฒนา และยกระดับรถแท็กซี่ “TAXI OK” ของกรมการขนส่งทางบก
ทั้งนี้ ในระยะแรกมีผู้ประกอบการนำรถเข้าร่วมโครงการ “TAXI OK” จำนวน 7 คัน และรถส่วนที่เหลือซึ่งจดทะเบียนไว้เดิม จำนวน 17 คัน จะมีการทยอยติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมจนครบทุกคันในเร็วๆ นี้ ภายใต้มาตรฐาน “รับทุกท่าน ไปทุกที่ มั่นใจไม่ปฏิเสธผู้โดยสาร รถใหม่สะอาด นั่งสบาย ราคามาตรฐาน และจำกัดความเร็วไม่เกิน 90 กม./ชั่วโมง ตามที่กฎหมายกำหนด”
หากผู้โดยสารไม่ได้รับความสะดวกเกี่ยวกับการใช้บริการสามารถแจ้งข้อมูล หรือร้องเรียนได้ที่ สายด่วนหมายเลข 1584 ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ ตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับรถแท็กซี่ดังกล่าวใช้ระบบอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารหลายด้าน ตั้งแต่การเรียกรถเพื่อใช้บริการ ซึ่งสามารถโบกเรียกได้ตามปกติ หรือโทรศัพท์ไปยังสหกรณ์แท็กซี่ และ ทางแอปพลิเคชัน เมื่อลูกค้าใช้บริการก็จะมีระบบตรวจสถานที่ตั้ง หรือจีพีเอส ตลอดระยะทางการเดินทาง กล้องถ่ายภาพ หรือสแน็บช็อต ปุ่มกดกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินโดยระบบทั้งหมดจะเชื่อมโยงไปยังแอปพลิเคชันสำนักงานขนส่ง และกรมการขนส่งทางบกไปตลอดเส้นทางการเดินทางเพื่อให้ผู้ใช้บริการมีความมั่นใจในการให้บริการ
เมื่อผู้โดยสารเรียกใช้บริการ ข้อมูลต่างๆ ก็จะไปปรากฏในระบบของสำนักงานขนส่ง และการขนส่งทางบกไปพร้อมๆ กัน ทำให้ผู้ใช้บริการมีความมั่นใจ และหากไม่ได้รับการอำนวยความสะดวกหรือเกิดเหตุฉุกเฉินก็สามารถกดปุ่มแจ้งได้ ซึ่งระบบก็จะแจ้งไปยังทุกหน่วยงาน รวมทั้งยังสามารถเรียกดูข้อมูลย้อนหลังได้ตั้งแต่ก่อนขึ้นรถ และตลอดระยะเวลาการเดินทางจนไปถึงลงจากรถไป
สำหรับอัตราค่าบริการ 2 กิโลเมตรแรก คิดราคา 40 บาท และกิโลเมตร ที่ 2-10 คิดราคา 6 บาท เกินกว่า 10 กิโลเมตร คิดราคา 10 บาท ส่วนกรณีแจ้งผ่านศูนย์เก็บเพิ่ม 20 บาท
ด้าน นายนาคิน เพชรลุ ประธานสหกรณ์บริการรถยนต์บริการธุรกิจกระบี่ จำกัด กล่าวว่า โครงการ “TAXI OK” ของกรมการขนส่งทางบก สามารถตอบโจทย์ได้หลายอย่าง ทั้งเรื่องความปลอดภัยของผู้โดยสาร และลดความขัดแย้งของกลุ่มผู้ประกอบรถโดยสารด้วยกันเอง ทั้งรถป้ายเหลือง ป้ายเขียว ป้ายดำ และรถโดยสารประจำทาง บ่อยครั้งมีการแย่งลูกค้า แม้กระทั่งที่จอดรถ หลังจากเกิดโครงการนี้ขึ้นมาผู้ประกอบการรถแท็กซี่ทุกคันสามารถไปรับผู้โดยสารได้ทุกที่ที่มีการเรียกใช้บริการ ส่วนในเรื่องค่าโดยสารก็เชื่อว่าถูกกว่ารถโดยสารทั่วไปอย่างแน่นอนเพราะคิดราคาค่าโดยสารตามมิเตอร์
วันนี้ (6 ก.พ.) นางลัดดาวัลย์ ชิณณะเสถียร ขนส่งจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า จังหวัดกระบี่เป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดรถบริการสาธารณะทั้งถูกกฎหมาย และผิดกฎหมายตามมาเป็นจำนวนมากวิ่งให้บริการนักท่องเที่ยว เดินทางไปท่องเที่ยวยังสถานที่ต่างๆ บางครั้งมีการแย่งชิงผู้โดยสารกันถึงขั้นข่มขู่ทำร่างกายกันก็ยังมี นอกจากนี้แล้ว ผู้ประกอบการบางรายที่เห็นนักท่องเที่ยวเป็น “เหยื่อ” ก็มีการเรียกเก็บอัตราค่าโดยสารที่สูงลิ่วแพงเกินจริง ซึ่งมีการร้องเรียนกันอยู่บ่อยครั้ง
ขนส่งจังหวัดกระบี่ กล่าวด้วยว่า เพื่อยกระดับมาตรฐานการบริการ และความปลอดภัยของรถแท็กซี่ ให้ผู้โดยสารมีทางเลือกในการใช้บริการระบบรถสาธารณะที่ดี มีคุณภาพ ราคาเป็นธรรม และเข้าถึงได้สะดวก ประกอบกับเพื่อรองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยวที่นิยมเดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่
สำนักงานขนส่งจังหวัดกระบี่ จึงได้ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการรถแท็กซี่มิเตอร์ ในจังหวัดกระบี่ เข้าร่วมโครงการฯ ขับเคลื่อนนโยบายการพัฒนา และยกระดับรถแท็กซี่ “TAXI OK” ของกรมการขนส่งทางบก
ทั้งนี้ ในระยะแรกมีผู้ประกอบการนำรถเข้าร่วมโครงการ “TAXI OK” จำนวน 7 คัน และรถส่วนที่เหลือซึ่งจดทะเบียนไว้เดิม จำนวน 17 คัน จะมีการทยอยติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมจนครบทุกคันในเร็วๆ นี้ ภายใต้มาตรฐาน “รับทุกท่าน ไปทุกที่ มั่นใจไม่ปฏิเสธผู้โดยสาร รถใหม่สะอาด นั่งสบาย ราคามาตรฐาน และจำกัดความเร็วไม่เกิน 90 กม./ชั่วโมง ตามที่กฎหมายกำหนด”
หากผู้โดยสารไม่ได้รับความสะดวกเกี่ยวกับการใช้บริการสามารถแจ้งข้อมูล หรือร้องเรียนได้ที่ สายด่วนหมายเลข 1584 ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ ตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับรถแท็กซี่ดังกล่าวใช้ระบบอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารหลายด้าน ตั้งแต่การเรียกรถเพื่อใช้บริการ ซึ่งสามารถโบกเรียกได้ตามปกติ หรือโทรศัพท์ไปยังสหกรณ์แท็กซี่ และ ทางแอปพลิเคชัน เมื่อลูกค้าใช้บริการก็จะมีระบบตรวจสถานที่ตั้ง หรือจีพีเอส ตลอดระยะทางการเดินทาง กล้องถ่ายภาพ หรือสแน็บช็อต ปุ่มกดกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินโดยระบบทั้งหมดจะเชื่อมโยงไปยังแอปพลิเคชันสำนักงานขนส่ง และกรมการขนส่งทางบกไปตลอดเส้นทางการเดินทางเพื่อให้ผู้ใช้บริการมีความมั่นใจในการให้บริการ
เมื่อผู้โดยสารเรียกใช้บริการ ข้อมูลต่างๆ ก็จะไปปรากฏในระบบของสำนักงานขนส่ง และการขนส่งทางบกไปพร้อมๆ กัน ทำให้ผู้ใช้บริการมีความมั่นใจ และหากไม่ได้รับการอำนวยความสะดวกหรือเกิดเหตุฉุกเฉินก็สามารถกดปุ่มแจ้งได้ ซึ่งระบบก็จะแจ้งไปยังทุกหน่วยงาน รวมทั้งยังสามารถเรียกดูข้อมูลย้อนหลังได้ตั้งแต่ก่อนขึ้นรถ และตลอดระยะเวลาการเดินทางจนไปถึงลงจากรถไป
สำหรับอัตราค่าบริการ 2 กิโลเมตรแรก คิดราคา 40 บาท และกิโลเมตร ที่ 2-10 คิดราคา 6 บาท เกินกว่า 10 กิโลเมตร คิดราคา 10 บาท ส่วนกรณีแจ้งผ่านศูนย์เก็บเพิ่ม 20 บาท
ด้าน นายนาคิน เพชรลุ ประธานสหกรณ์บริการรถยนต์บริการธุรกิจกระบี่ จำกัด กล่าวว่า โครงการ “TAXI OK” ของกรมการขนส่งทางบก สามารถตอบโจทย์ได้หลายอย่าง ทั้งเรื่องความปลอดภัยของผู้โดยสาร และลดความขัดแย้งของกลุ่มผู้ประกอบรถโดยสารด้วยกันเอง ทั้งรถป้ายเหลือง ป้ายเขียว ป้ายดำ และรถโดยสารประจำทาง บ่อยครั้งมีการแย่งลูกค้า แม้กระทั่งที่จอดรถ หลังจากเกิดโครงการนี้ขึ้นมาผู้ประกอบการรถแท็กซี่ทุกคันสามารถไปรับผู้โดยสารได้ทุกที่ที่มีการเรียกใช้บริการ ส่วนในเรื่องค่าโดยสารก็เชื่อว่าถูกกว่ารถโดยสารทั่วไปอย่างแน่นอนเพราะคิดราคาค่าโดยสารตามมิเตอร์