หุ้นไทยปิดบวก 4.62 จุด แม้เผชิญแรงขายระหว่างทาง ทิศทางยังขึ้นต่อรับ ศก.โลกฟื้น และสภาพคล่องสูง ส่วนแนวโน้มการซื้อขายวันพรุ่งนี้ยังให้น้ำหนักของการปรับขึ้นต่อหลังจากปรับฐานระหว่างวันในวันนี้ ขณะที่มองการประชุม กนง.วันพรุ่งนี้คาดว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงจะเป็นภาพบวกต่อตลาด เพราะจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นต่อแม้เผชิญแรงขายทำกำไรระหว่างทางหลังจากปรับขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,625-1,630 จุด แต่การขายทำกำไรไม่ได้กดดัชนีลงไปต่ำกว่าแนวรับ 1,617 จุด แสดงถึงภาพการขายทำกำไรปกติหลังจากดีดตัวขึ้นแรงเมื่อวานนี้ รวมถึงวันนี้ยังไม่มีปัจจัยลบเข้ามาสู่ตลาด ทำให้ภาพตลาดยังไม่เปลี่ยนแปลงจากภาพการฟื้นตัว
สำหรับทิศทางตลาดมองว่ายังเป็นขาขึ้นตามตลาดหุ้นทั่วโลกจากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ดีขึ้น โดยเฉพาะหากสหรัฐฯ กับจีนสามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้าระหว่างกันได้ อีกทั้งธนาคารกลางหลายประเทศดำเนินนโยบายการเงินผ่อนคลายทั้งในสหรัฐฯ และยุโรป ส่งผลให้สภาพคล่องในตลาดอยู่ในระดับสูง นอกจากนี้ ตัวเลขภาคการผลิตของจีน ไต้หวัน และเกาหลีใต้ เริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในช่วง 2-3 เดือนก่อน ทำให้เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
แม้สภาพคล่องตลาดโลกจะอยู่ในระดับสูง แต่ก็ยังไม่เห็นการเข้าซื้อสุทธิของต่างชาติในตลาดหุ้นไทยมากนัก เพราะเงินทุนไหลเข้าส่วนใหญ่เข้าไปในตลาดตราสารหนี้เนื่องจากเสถียรภาพทางการเงินของไทยดีมาก โดยเฉพาะการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดในระดับสูงทำให้ภาพทางด้านตลาดตราสารหนี้ของไทยมีความแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นไทยที่ผลประกอบการของ บจ.ยังไม่แข็งแกร่ง โดยนับตั้งแต่ต้นปีถูกปรับประมาณการลงราว 16% อย่างไรก็ตาม การที่สภาพคล่องในตลาดสูงก็จะช่วยจำกัดความเสี่ยงทางลงของตลาดหุ้นไทยได้บ้าง
ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,626.87 จุด เพิ่มขึ้น 4.62 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.28% มูลค่าการซื้อขาย 59,165.68 ล้านบาท
ส่วนแนวโน้มการซื้อขายวันพรุ่งนี้ ยังให้น้ำหนักของการปรับขึ้นต่อหลังจากปรับฐานระหว่างวันในวันนี้ ขณะที่มองการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันพรุ่งนี้คาดว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงจะเป็นภาพบวกต่อตลาด เพราะจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ส่วนแรงกดดันที่จะมีผลต่อส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของกลุ่มแบงก์นั้นเชื่อว่าจะไม่มากนัก เพราะธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณชะลอการปรับลดดอกเบี้ยไปแล้ว ทำให้ตลาดลดความกังวลลง ทำให้หุ้นกลุ่มแบงก์มีโอกาสที่จะฟื้นตัวแม้ว่า กนง.ลดดอกเบี้ยในรอบนี้ก็ตาม พร้อมมองแนวรับที่ระดับ 1,617 จุด และแนวต้านที่ 1,630-1,640 จุด