“ประพันธ์ อนุพงษ์องอาจ” ปัดตอบแผนควบรวมธนาคาร TMB เผยยังอยู่ในช่วงของการศึกษาข้อมูล คาดยังไม่ได้ข้อสรุปภายในเวลาอันใกล้นี้ แย้มแผนพัฒนากลยุทธ์ธนาคารดิจิทัล รับกระแสเทคโนโลยี หลังประกาศผลการดำเนินงานปี 2561 กำไรสุทธิโต 6.4% พอร์ตสินเชื่อขยายได้ถึง 6.4% ตั้งเป้าขยายพอร์ตสินเชื่อรวมเพิ่มขึ้น 7% สินเชื่อรถยนต์โต 10% เน้นเพิ่มสัดส่วน CASA ratio ขึ้นเป็น 50% รักษา NIM ให้อยู่ในระดับเหมาะสม
นายประพันธ์ อนุพงษ์องอาจ ประธานเจ้าหน้าที่บริการ และกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) ยืนยันกลุ่มผู้ถือหุ้น ยังอยู่ระหว่างพิจารณาแผนการควบควมกิจการระหว่างธนาคารธนชาต กับธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB ณ ปัจจุบันยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนในระยะเวลาอันใกล้นี้ ทีมผู้บริหาร รวมถึงพนักงานทุกคน ยังคงดำเนินงานตามปกติ
“ตั้งแต่ช่วงสิ้นปี 2561 ที่ผ่านมา ทางธนาคารได้รับทราบนโยบายจากกลุ่มผู้ถือหุ้นว่าจะมีการควบควมกิจการ แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีความคืบหน้าอะไรออกมา กลุ่มผู้บริหารธนาคารธนชาต รวมถึงพนักงานทุกคน ยังคงโฟกัสทำงานตามแผนการดำเนินงาน เพื่อเพิ่มผลการดำเนินงานให้ดียิ่งขึ้น”
ขณะที่ในส่วนของการบริหารสาขา ณ ปัจจุบัน สาขาของธนาคารมีทั้งสิ้น 512 สาขา ปี 2562 นี้ตั้งเป้าปรับลดให้เหลือ 500 สาขา โดยจะมีทั้งแผนปิดปิดสาขาเก่าที่มีค่าใช้จ่ายต้นทุนสูง และมีลูกค้าน้อย โดยในส่วนของการเปิดสาขาใหม่จะเน้นการกระจายไปยังทำเลที่ตั้งชุมชนเป็นหลักจะเน้นปรับปรุงรูปแบบสาขาให้ทันสมัย นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยการดำเนินงานธุรกรรมด้านต่างๆ มากขึ้น ในส่วนของพนักงานจะเน้นพัฒนาขึ้นเป็น “ที่ปรึกษาด้านการลงทุน” และการให้บริการแบบครบวงจรทั้งการเงิน การลงทุน สินเชื่อ และการประกันให้มากขึ้น
“ธนาคารตั้งเป้าขยายสาขาให้ได้ประมาณ 500 แห่ง ซึ่งคงมีทั้งการปิดปรับปรุงสาขาเก่า และเปิดสาขาใหม่ รวมถึงปรับปรุงให้ทันสมัย นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยงานด้านฝาก-ถอน หรือธุรกรรมปกติมากขึ้น ส่วนพนักงานเราจะเร่งอบรม เพื่อเพิ่มศักยภาพให้เป็นที่ปรึกษาด้านการลงทุน ให้คำแนะนำด้านการเงินให้ลูกค้าให้มากขึ้น”
ด้านพอร์ตสินเชื่อคงค้าง ณ สิ้นปี 2561 ที่ 754,613 ล้านบาท มี NPL Ratio อยู่ที่ 2.30% คงที่จากปีก่อน และอยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมสะท้อนถึงคุณภาพของธนาคารในการบริหารความเสี่ยงได้เป็นอย่างดี โดยในปีนี้ธนาคารตั้งเป้าขยายพอร์ตสินเชื่อรวม 7% ต่อเนื่องจากปี 2561 โดยจะยังคงรุกตลาดสินเชื่อรถยนต์เป็นหลักทั้งสินเชื่อรถใหม่, รถเก่า, สินเชื่อจำนำทะเบียน, และสินเชื่อจำนำรถ โดยตั้งเป้าขยายพอร์ตสินเชื่อรถยนต์ปีนี้ประมาณ 10%, พอร์ตลูกค้ารายย่อย โตประมาณ 7%, พอร์ตลูกค้า SMEs และสินเชื่อลูกค้ารายใหญ่ โตประมาณ 4-6% โดยจะยังคงรักษาอัตราส่วน NPL Ratio ให้อยู่ในระดับ 2.30%
ณ สิ้นปี 2561 ธนาคารสัดส่วนบัญชีเงินฝากกระแสรายวันกับบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ (CASA ratio) ต่อเงินรับฝากประมาณ 48% ซึ่งธนาคารมีแผนเพิ่มขึ้นเป็น 50% ณ สิ้นปี 2562 ควบคู่กับการรักษารักษาสัดส่วนระหว่างรายได้ดอกเบี้ยรับ และดอกเบี้ยจ่าย (NIM) ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
“ธนาคารติดตามสถานการณ์อัตราดอกเบี้ยอย่างใกล้ชิด โดยหากมีแนวโน้มต้นทุนอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ต้องเพิ่มขึ้น ก็มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ได้ในอนาคต ซึ่งเราคงพยายามรักษา NIM ในอัตราที่เหมาะสม”