ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 20 ก.ค. 2561
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดตลาดปรับตัวลดลงเล็กน้อยเมื่อวันศุกร์ (20 ก.ค.) หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนวงเงินสูงถึง 5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หากมีความจำเป็น อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลงไม่มากนัก หลังผลประกอบการประจำไตรมาสของบริษัทรายใหญ่ๆ ในสหรัฐฯ นั้นออกมาแข็งแกร่ง ซึ่งเข้ามาสกัดช่วงลบในการซื้อขายเมื่อคืนนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,058.12 จุด ลดลง 6.38 จุด หรือ -0.03% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,820.20 จุด ลดลง 5.10 จุด หรือ -0.07% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,801.83 จุด ลดลง 2.66 จุด หรือ -0.09%
- ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อวันศุกร์ (20 ก.ค.) นำโดยหุ้นกลุ่มยานยนต์ จากความวิตกเกี่ยวกับการทำสงครามการค้ารอบใหม่ระหว่างสหรัฐฯ และจีน หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนวงเงินสูงถึง 5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หากมีความจำเป็น ส่งผลให้นักลงทุนมีความวิตกกังวลว่า สงครามการค้าระหว่างสองประเทศนี้จะบั่นทอนการเติบโตของเศรษฐกิจโลก รวมถึงผลประกอบการของบริษัทต่างๆ
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.56 จุด หรือ 0.15% ปิดที่ 385.62 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมัน ปิดที่ 12,561.42 จุด ลดลง 124.87 จุด หรือ 0.98% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปิดที่ 5,398.32 จุด ลดลง 18.75 จุด หรือ 0.35% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดที่ 7,678.79 จุด ลดลง 5.18 จุดหรือ 0.07%
- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดตลาดปรับตัวลดลงเมื่อวันศุกร์ (20 ก.ค.) นำโดยหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ จากความวิตกเกี่ยวกับการทำสงครามการค้ารอบใหม่ระหว่างสหรัฐฯ และจีน หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนวงเงินสูงถึง 5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หากมีความจำเป็น โดยจีนเป็นประเทศที่ใช้ทองแดงมากที่สุดในโลก
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,678.79 จุด ลดลง 5.18 จุด หรือ 0.07%
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์ก ปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (20 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากรายงานข่าวที่ว่า ซาอุดิอาระเบียเตรียมลดการส่งออกน้ำมันในเดือนหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะอุปทานน้ำมันในตลาดที่สูงเกินไป นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวหาจีน และสหภาพยุโรป กำลังปั่นค่าเงินเพื่อสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ
ราคาน้ำมันได้แรงหนุนจากการที่ซาอุดิอาระเบียเปิดเผยว่า การส่งออกน้ำมันของซาอุดิอาระเบีย จะลดลงราว 100,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนหน้า รวมทั้งการเปิดเผยสต๊อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐฯ ลดลง 1.8 ล้านบาร์เรล หรือ 6.2% เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค. เพิ่มขึ้น 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 1.4% ปิดที่ 70.46 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนต์ส่งมอบเดือน ก.ย. เพิ่มขึ้น 49 เซ็นต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 73.07 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อวันศุกร์ (20 ก.ค.) โดยได้อานิสงส์จากการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐฯ หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวหาจีน และสหภาพยุโรป กำลังปั่นค่าเงินเพื่อสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ส.ค. เพิ่มขึ้น 7.1 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 0.58% ปิดที่ 1231.10 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน ก.ย. เพิ่มขึ้น 14.7 เซ็นต์ หรือ 0.95% ปิดที่ 15.549 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือน ต.ค. เพิ่มขึ้น 23.2 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 2.88% ปิดที่ 829.50 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือน ก.ย. เพิ่มขึ้น 22.70 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 2.6% ปิดที่ 888.90 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์
- ดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (20 ก.ค.) หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวหาจีน และสหภาพยุโรป กำลังปั่นค่าเงินเพื่อสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ
ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ระดับ 1.1725 ดอลลาร์สหรัฐฯ จากระดับ 1.1644 ดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.3135 ดอลลาร์สหรัฐฯ จากระดับ 1.3015 ดอลลาร์สหรัฐฯ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 0.7425 ดอลลาร์สหรัฐฯ จากระดับ 0.7358 ดอลลาร์สหรัฐฯ
ดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 111.55 เยน จากระดับ 112.47 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9926 ฟรังก์ จากระดับ 0.9990 ฟรังก์
ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดที่ 25,058.12 จุด ลดลง 6.38 จุด -0.03%
ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดที่ 7,820.20 จุด ลดลง 5.10 จุด, -0.07%
ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดที่ 2,801.83 จุด ลดลง 2.66 จุด -0.09%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดที่ 7,678.79 จุด ลดลง 5.18 จุด -0.07%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมัน ปิดที่ 12,561.42 จุด ลดลง 124.87 จุด, -0.98%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปิดที่ 5,398.32 จุด ลดลง 18.75 จุด -0.35%
ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดีย ปิดที่ 36,496.37 จุด เพิ่มขึ้น 145.14 จุด, +0.40%
ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ปิดที่ 3,297.83 จุด เพิ่มขึ้น 20.25 จุด, +0.62%
ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ปิดที่ 1,754.67 จุด ลดลง 4.57 จุด, -0.26%
ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย ปิดที่ 5,872.78 จุด เพิ่มขึ้น 1.70 จุด, +0.03%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 28,224.48 จุด เพิ่มขึ้น 213.62 จุด, +0.76%
ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ปิดที่ 7,399.61 จุด เพิ่มขึ้น 11.74 จุด, +0.16%
ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ปิดที่ 2,829.27 จุด เพิ่มขึ้น 56.72 จุด, +2.05%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ปิดที่ 2,289.19 จุด เพิ่มขึ้น 6.90 จุด, +0.30%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย ปิดที่ 6,285.90 จุด เพิ่มขึ้น 23.20 จุด, +0.37%
ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลีย ปิดที่ 6,377.40 จุด เพิ่มขึ้น 22.40 จุด, +0.35%
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปิดที่ 22,697.88 จุด ลดลง 66.80 จุด, -0.29%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ปิดที่ 10,932.11 จุด เพิ่มขึ้น 96.73 จุด, +0.89%