ซีไอเอ็มบีไทยประกาศกำไร 6 เดือนแรกของปีจำนวน 360 ล้านบาท ลดลง 24.6% ระบุสาเหตุหลักจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน-สำรองหนี้สูญเพิ่ม ขณะที่เอ็นพีแอลเพิ่มขึ้นเป็น 5.8% จาก 4.8% และสินเชื่อรวมโต 1%
นายกิตติพันธ์ อนุตรโสตถิ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) (CIMBT) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของกลุ่มธนาคาร ยังมิได้ผ่านการตรวจสอบ สำหรับงวดหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2561 มีกำไรสุทธิ 360.1 ล้านบาท ลดลงจำนวน 117.7 ล้านบาท หรือร้อยละ 24.6 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันสาเหตุหลักเกิดจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและสำรองหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.0 โดยมีรายได้จากการดำเนินงานจำนวน 6,795.3 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 412.2 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.5 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันปี 2560 สาเหตุหลักเกิดจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิร้อยละ 5.2 รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิร้อยละ 10.0 และรายได้อื่นร้อยละ 12.6 ขณะที่กำไรจากการดำเนินงานก่อนหักหนี้สงสัยจะสูญลดลงร้อยละ 1.4 เป็นจำนวน 2,921.3 ล้านบาท เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ร้อยละ 13.3
ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบผลการดำเนินงานงวดหกเดือนปี 2561 และ 2560 รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 258.4 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.2 เป็นผลจากการขยายตัวของสินเชื่อและการลดลงของค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิเพิ่มขึ้นจำนวน 89.8 ล้านบาท หรือร้อยละ 10.0 มาจากการเพิ่มขึ้นของค่าธรรมเนียมจากการจัดจำหน่ายหน่วยลงทุน ค่าธรรมเนียมจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันภัยและรายได้ธุรกรรมเช่าซื้อ รายได้อื่นเพิ่มขึ้นจำนวน 63.9 ล้านบาท หรือร้อยละ 12.6 เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากธุรกรรมบริหารเงินเนื่องจากปริมาณธุรกรรมที่เพิ่มขึ้นในตลาดที่เอื้ออำนวย ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสำหรับงวดหกเดือนปี 2561 เปรียบเทียบกับงวดเดียวกันปี 2560 เพิ่มขึ้นจำนวน 455.0 ล้านบาทหรือร้อยละ 13.3 สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานและขาดทุนจากการขายทรัพย์สินรอการขาย เป็นผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ต่อรายได้จากการดำเนินงานงวดหกเดือนปี 2561 อยู่ที่ร้อยละ 57.0 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2560 อยู่ที่ร้อยละ 53.6
ส่งให้อัตราส่วนรายได้ดอกเบี้ยสุทธิต่อสินทรัพย์เฉลี่ย (Net Interest Margin - NIM) สำหรับงวดหกเดือนปี 2561 อยู่ที่ร้อยละ 3.87 เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันปี 2560 อยู่ที่ร้อยละ 3.81 เป็นผลจากการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ด้านเงินให้สินเชื่อของกลุ่มธนาคาร ณ 30 มิถุนายน 2561 อยู่ที่ 215.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.0 เมื่อเทียบกับสิ้นปีก่อน ด้านเงินฝากมีจำนวน 224.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.0 จากสิ้นปี 2560 ซึ่งมีจำนวน 220.1 พันล้านบาท ส่งผลให้อัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากของกลุ่มธนาคารลดลงเป็นร้อยละ 95.9 จากร้อยละ 96.8 ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2560 ขณะที่สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) อยู่ที่ 12.6 พันล้านบาท อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อเงินให้สินเชื่อทั้งสิ้น (NPL ratio) อยู่ที่ร้อยละ 5.8 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2560 อยู่ที่ร้อยละ 4.8 เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นในสินเชื่อด้อยคุณภาพของลูกค้าพาณิชย์ธนกิจในงวดหกเดือนปี 2561 และการขายสินเชื่อด้อยคุณภาพในปี 2560 อย่างไรก็ตาม ธนาคารซีไอเอ็มบีไทยยังคงมาตรฐานการอนุมัติสินเชื่อ และนโยบายการบริหารความเสี่ยงที่รัดกุมขึ้น ตลอดจนได้มีแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพการติดตามหนี้ การดำเนินการดูแลและการแก้ไขลูกหนี้ที่ถูกผลกระทบดังกล่าวอย่างใกล้ชิด
และอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2561 อยู่ที่ร้อยละ 90.1 ลดลงจากสิ้นปี 2560 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 93.2 ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2561 เงินสำรองของกลุ่มธนาคาร อยู่ที่จำนวน 11.3 พันล้านบาท ซึ่งเป็นสำรองส่วนเกินตามเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทยจำนวน 4.0 พันล้านบาท และเงินกองทุนรวมของกลุ่มธนาคาร ณ สิ้นวันที่ 30 มิถุนายน 2561 มีจำนวน 43.9 พันล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนเงินกองทุนรวมต่อสินทรัพย์เสี่ยงร้อยละ 17.0 โดยเป็นอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ร้อยละ 12.0
ส่วนกำไรสุทธิไตรมาส 2 ปี 61 ของธนาคารมีจำนวน 191.2 ล้านบาท ลดลง 165.4 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 46.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 356.6 ล้านบาท