กลุ่มทิสโก้(TISCO)แจ้งผลประกอบการ งวดไตรมาส 2 ปี 2561 มีกำไรสุทธิจำนวน 1,709.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 204.29 ล้านบาท หรือคิดเป็น 13.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YOY) ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ และรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย โดยรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 15.1% (YOY) จากความสามารถในการรักษาอัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อรวม และการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงการรับโอนธุรกิจลูกค้ารายย่อยจากธนาคารสแตนดารด์ชาร์เตอร์ด (ไทย) จำกัด (มหาชน) ตั้งแต่ไตรมาส 4 ปีก่อน ขณะที่รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยจากธุรกิจหลักปรับตัวเพิ่มขึ้น 10.6% จากทุกภาคธุรกิจ โดยรายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจธนาคารพาณิชย์ขยายตัว 11.1% ตามการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของธุรกิจนายหน้าประกันภ้ย รายได้ค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น 16.4% ตามปริมาณการซื้อขายในตลาดหลักทรัพยฯ และรายได้ค่าธรรมเนียมพื้นฐานของธุรกิจจัดการกองทุนเติบโต 15.7% และการตั้งสำรองหนี้สูญลดลงเล็กน้อยที่ร้อยละ 1.4 เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2560 ตามการบริการคุณภาพสินทรัพย์อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับงวด 6 เดือนแรกของปี 2561 มีกำไรสุทธิจำนวน 3,475.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.0% จากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิและรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยจากธุรกิจหลัก โดยรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเติบโต 16.3% ส่วนรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยจากธุรกิจหลักปรับตัวเพิ่มขึ้น 11.3% จากทุกภาคธุรกิจ และการตั้งสำรองหนี้สูญเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.9 จากการตั้งสำรองตามการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อ และการตัดหนี้สูญของสินเชื่อบางกลุ่ม
ทั้งนี้ ในไตรมาส 2 ปี 2561 หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.69% จาก 2.34%ในไตรมาสก่อนหน้า สาเหตุมาจากลูกหนี้สินเชื่อธุรกิจขนาดกลางรายหนึ่งที่ประสบปัญหาการชำระหนี้ ส่งผลให้สัดส่วนเงินสำรองหนี้สูญต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ปรับตัวมาอยู่ที่ร้อยละ 184.9
ด้านเงินให้สินเชื่อ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2561 มีจำนวน 237,367 ล้านบาท ลดลง 3,397.03 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1.4% จากไตรมาสก่อนหน้า ส่วนใหญ่มาจากการชำระคืนหนี้ของลูกหนี้บรรษัท และลูกหนี้ขนาดกลาง และขนาดย่อย ขณะที่สินเชื่อรายย่อยมียอดคงค้างที่ 181,806.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.1%
