xs
xsm
sm
md
lg

ME by TMB เปิด ME MOVE-ขยายช่องทำธุรกรรม-ตั้งเป้า 4 หมื่นราย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ME by TMB ขยับรุกดิจิทัลแบงกิ้ง เปิดบริการ ME MOVE บริการโยกเงินส่วนเกินจากการใช้ตามที่เจ้าบัญชีกำหนดเข้าสู่ ME SAVE เพี่อรับดอกเบี้ยสูงโดยอัตโนมัติ ด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ Balance Sweep ตั้งเป้าปีนี้มียอดผู้ใช้ 4 หมื่นราย

นางสาวมิ่งขวัญ พัฒนวงศ์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารส่งเสริมการตลาดลูกค้าบุคคล ธนาคารทหารไทย (TMB)เปิดเผยว่า นับจากที่ ME by TMB ได้เปิดให้บริการมา 6 ปีที่ผ่านมาแล้วนั้น ปัจจุบันมีลูกค้าจำนวน 330,000 ราย จากปลายปีก่อนที่ 300,000 ราย และคาดว่าทั้งปีจะอยู่ที่ 360,000 ราย เพิ่มขึ้น 20% มีวงเงินฝากต่อรายเฉลี่ย 140,000 บาท และเรียกชื่อบัญชีว่า ME SAVE พร้อมกันนั้น ได้ออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ชื่อ ME MOVE บัญชีใช้จ่ายดิจิทัลภายใต้แนวคิด “อยากใช้ได้ใช้ อยากเก็บได้มากกว่า” ให้ลูกค้ามีความคล่องตัวในการทั้งในด้านการออมเงิน และการใช้จ่าย จึงนับเป็นการตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ทางการเงินของคนรุ่นใหม่ที่นิยมทำธุรกรรมทางการเงินผ่านช่องทางดิจิทัลมากขึ้น และจะเดินหน้าเพิ่มบริการจ่ายชำระบิล หรือเติมเงินต่างๆ ได้ในเฟสต่อไปประมาณเดือนกันยายนนี้

นายเบญจรงค์ สุวรรณคีรี หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร ME by TMB กล่าวว่า ความพิเศษของบัญชี ME MOVE คือ มีเทคโนโลยีอัจฉริยะ Balance Sweep ที่จะช่วยบริหารเงินให้ลูกค้าโดยปัดบัญชีคงเหลืออัตโนมัติไปรับดอกเบี้ยสูงกับบัญชี ME SAVE เพียงลูกค้ากำหนดยอดเงินแค่พอใช้ในบัญชี ME MOVE และตั้งค่า Sweep เงินได้ทั้งแบบรายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน โดยเงินส่วนที่เกินจะถูกโอนอัตโนมัติไปเก็บที่ ME SAVE เพื่อรับดอกเบี้ยสูง 1.7% ต่อปี ทั้งนี้ ตั้งเป้ายอดลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าใหม่เปิดบัญชี ME MOVE จำนวน 40,000 บัญชีภายในสิ้นปีนี้ จากช่วง 3 สัปดาห์ที่ทดลองเปิดใช้มียอดผู้ใช้แล้วกว่า 9,000 ราย

ผู้ใช้บัญชี ME SAVE สามารถเปิดใช้บริการ ME MOVE ได้ผ่าน ME by TMB Application โดยใช้เวลาในการลงทะเบียนเพียง 2 นาที และโอนเงินออกไปยังบุคคลอื่น ธนาคารใดก็ได้ รวมถึงการโอนเงินแบบพร้อมเพย์โดยไม่มีค่าธรรมเนียมใดๆ หลังจากนั้น ในเฟสต่อไปจะมีการเพิ่มฟังก์ชันใหม่ๆ เพื่อให้ลูกค้างานได้สะดวกมากขึ้น เช่น การชำระค่าสินค้า ค่าสาธารณูปโภค (Bill Payment) เติมเงิน ตลอดจนนวัตกรรมเพื่อการใช้จ่ายื่นๆ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน รวมถึงการพัฒนาการยืนยันตัวตนระบบ E-KYC คาดว่าจะสามารถเข้าทดสอบใน Sand Box ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในเดือน ส.ค. นี้ น่าจะช่วยให้สามารถขยายฐานลูกค้าต่างจังหวัดได้เพิ่มมากขึ้นด้วย

ทั้งนี้ ปัจจุบัน ME มีลูกค้าที่เปิดบัญชี ME SAVE แล้วกว่า 3 แสนบัญชี มีสัดส่วนของลูกค้าในกรุงเทพฯและปริมณฑล อยู่ที่ 72% และต่างจังหวัด 28% พร้อมตั้งเป้าหมายการเติบโตของบัญชี ME SAVE ที่ 20%จากฐานลูกค้าปีที่แล้ว และปัจจุบันมีลูกค้าใหม่ที่เปิดบัญชี ME SAVE แล้วกว่า 29,000 บัญชี หรือคิดเป็น 48% ของเป้าหมายที่ตั้งไว้ และเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้ปลดล็อกค่าธรรมเนียมการโอนต่างธนาคารที่ผูกไว้กับบัญชี ME SAVE สูงสุด 3 บัญชีได้ฟรี ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ทำให้ลูกค้าคล่องตัวมากขึ้นซึ่งจากการยกเว้นค่าธรรมเนียมดังกล่าวส่งผลให้มียอดธุรกรรมเพิ่มขึ้นจากปกติถึง 10%

“ME MORE จะช่วยตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้จ่ายอย่างเต็มรูปแบบ โดยลูกค้าสามารถใช้งานคู่กับบัญชี ME SAVE ได้อย่างคล่องตัวเหมือนเป็นบัญชีที่ผูกไว้เป็นบัญชีที่ 4 และภายในปีนี้จะได้เห็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์การเงินเพื่อดารลงทุนที่คุ้มค่า และได้ผลตอบแทนสูงมาตอบโจทย์ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง”


กำลังโหลดความคิดเห็น