xs
xsm
sm
md
lg

กรุงศรี เผยแผน 3 ปี เน้นพัฒนาดิจิทัล-ชี้โปรฯ กู้ซื้อบ้านเริ่มแผ่วรับ ดบ. ขาขึ้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


แบงก์กรุงศรี มองภาพรวมอสังหาฯ ปีนี้เติบโตดีตามภาวะเศรษฐกิจโดยรวม พร้อมตั้งเป้าสินเชื่อปล่อยใหม่-ยอดคงค้างปีนี้โต 11% เอ็นพีแอลทรงที่ 2.4-2.6% คาดครึ่งปีหลังโปรฯ เริ่มแผ่วรับดอกเบี้ยขาขึ้น ขณะที่แผน 3 ปี เน้นพัฒนาดิจิทัล ภายใต้แนวคิด Digital First ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง

นายณัฐพล ลือพร้อมชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY)เปิดเผยว่า สินเชื่อที่อยู่อาศัยใน 3 ปีจากนี้ (ปี 61-63) ของธนาคารยังคงเติบโตได้สอดคล้องภาวะเศรษฐกิจที่เติบโตได้ดี โดยธนาคารตั้งเป้าหมายสินเชื่อใหม่แต่ละปีประมาณ 50,000-70,000 ล้านบาท ขณะที่ในปีนี้ตั้งเป้าสินเชื่อปล่อยใหม่ 63,000 ล้านบาท เติบโต 11% จากสิ้นปีก่อนที่มียอด 57,000 ล้านบาท และตั้งเป้ายอดคงค้างสินเชื่อ ณ สิ้นปีนี้ที่ 240,000 ล้านบาท เติบโต 11% จากสิ้นปีก่อนที่มียอดคงค้าง 215,316 ล้านบาท

ทั้งนี้ แผนธุรกิจในระยะกลางจะเน้นการพัฒนาระบบดิจิทัลภายใต้แนวคิด “Digital First” โดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางใน 5 ด้านหลักๆ ได้แก่ การพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อให้เจ้าหน้าที่ธนาคารสามารถบริการลูกค้าได้ตรงกับความต้องการมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นการให้คำปรึกษา รายงานสถานะการขอสินเชื่อ รวมถึงการร่วมมือกับพันธมิตรที่เกี่ยวเนื่องกับการแนะนำสินเชื่อบ้าน อาทิ แอปพลิเคชัน หรือเว็บไซต์อื่น เพื่อให้เข้าถึงลูกค้ามากขึ้น พร้อมกันนั้นจะใช้ Big Data และ RPA (Robotic Process Automation) มาใช้ในการชี้นำกลุ่มเป้าหมาย และกลั่นกรองลูกค้า และไปจนถึงการขอสินเชื่อผ่าน Digital Lending ในที่สุดเมื่อมีความพร้อมมากกว่านี้ เนื่องจากสินเชื่อบ้านยังมีความซับซ้อนทางด้านหลักประกัน และการสอบถามข้อมูลอยู่

ด้านหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ทรงตัวอยู่ในระดับ 2.4-2.6% และคาดว่าจะทรงตัวในระดับเดิมจนถึงปลายปีนี้ ต่ำกว่าเอ็นพีแอลของสินเชื่อที่อยู่อาศัยทั้งระบบอยู่ที่ 3.3% เนื่องจากธนาคารมีระบบการบริหารความเสี่ยง และการคัดกรองลูกค้าที่ดี โดยลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มที่อยู่อาศัยราคา 2-10 ล้านบาท ขณะที่กลุ่มที่เป็นเอ็นพีแอลสูงจะเป็นกลุ่มที่อยู่อาศัยราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการแข่งขันปล่อยสินเชื่อที่สูงทั้งด้านราคา และโปรโมชันในช่วงที่ผ่านมา จึงอาจทำให้จูงใจลูกค้าที่ยังไม่มีความพร้อมเข้ามาทำให้เกิดความเสี่ยงมากกว่ากลุ่มอื่นๆ

“ช่วงที่ผ่านมา การแข่งขันสูงทำให้จูงใจลูกค้ากลุ่มที่ยังไม่มีความพร้อมมากนักเข้ามา แล้วก็อาจจะเป็นส่วนของกลุ่ม Gen Y ซึ่งมักจะประกอบอาชีพอิสระ ซึ่งมีความเสี่ยงสูงทำให้กลายมาเป็นเอ็นพีแอลมากกว่า กลุ่มอื่น ส่วนในช่วงที่เหลือของปีนั้น การแข่งขันด้านดอกเบี้ย อาทิ ดอกเบี้ยต่ำกว่า 3% นี่คงไม่เห็นแล้ว เพราะแนวโน้มดอกเบี้ยที่เป็นขาขึ้นอย่างชัดเจน ประกอบกับต้นทุนเงินของธนาคารสูงขึ้นมาระยะหนึ่งแล้ว พร้อมกันเราก็จะเห็นแบงก์ก็จะเริ่มเปลี่ยนจากอัตราดอกเบี้ยคงที่ มาเป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัวแล้ว เพื่อตอบรับกับทิศทางดังกล่าว”

ส่วนแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นที่มีความชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วนั้น ธนาคารมองว่าจะเป็นผลบวกกับตลาดในปีนี้ เพราะจะทำให้ลูกค้ากลุ่มที่ตัดสินใจจะซื้อที่อยู่อาศัยตกลงซื้อก่อนที่ดอกเบี้ยจะขึ้น ซึ่งทางฝ่ายวิจัยของธนาคารประเมินว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 1 ครั้งในปลายปีนี้ โดยในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา การปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารเป็นไปตามเป้าหมาย หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 50% ของเป้าหมาย ซึ่งสูงกว่าปีก่อนๆ ที่ครึ่งปีแรกมักจะอยู่ในสัดส่วน 40% และเร่งตัวขึ้นในครึ่งปีหลัง เพื่อเป็นการเพิ่มความสมดุล ไม่ให้ครึ่งปีหลังเกิดความกดดันในการแข่งขันที่สูงเกินไป


กำลังโหลดความคิดเห็น