แอพเพิล เวลธ์ มองหุ้นไทย ก.ค. มีโอกาสปรับขึ้น 80-100 จุด โดยมองว่า การปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นไทย น่าจะเริ่มลดลง แนะจับตาทิศทางดอลลาร์สหรัฐฯ
นายอภิชัย เรามานะชัย รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. แอพเพิล เวลธ์ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงที่ผ่านมาปรับตัวลดลง หลุดแนวรับสำคัญที่ 1,730 จุด และปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง ต่ำกว่าแนวรับที่ประเมินไว้เบื้องต้นที่ 1,680 จุด ส่งผลให้โครงสร้างทางเทคนิคของ SET เป็นขาลงยาว โดยมีแนวรับถัดไปบริเวณ 1,580-1,600 จุด
ประกอบกับ RSI Indicator เริ่มเข้าสู่ระดับ Oversold ที่มีนัยสำคัญ จากประเด็นกระแสเงินทุนไหลออก หลังจากคาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งภายในปีนี้ ซึ่งอาจจะส่งผลให้ดอกเบี้ยสหรัฐฯ สูงกว่าไทยราว 75 bps-100 bps ขณะที่ประเด็นมาตรการกีดกันการค้าการลงทุนระหว่างสหรัฐฯ กับจีน กดดัน ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติยังลดความเสี่ยงการลงทุนในตลาดเกิดใหม่ และทำให้ภาวะการลงทุนในเดือน มิ.ย. 61 ที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นไทยปิด ลดลง 7.60% จากเดือน พ.ค. 61
สำหรับทิศทาง Fund Flow ของนักลงทุนต่างชาติช่วง 6 เดือนแรกที่ผ่านมา ยังคงขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย จำนวน 5,727 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่ยังซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย จำนวน 3,482 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ปัจจัยสำคัญ มาจากแรงกดดันของทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯ ที่จะปรับขึ้นอีก 2 ครั้งภายในปีนี้ ส่งผลให้ดอกเบี้ยสหรัฐฯ ในช่วงปลายปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 2.375% ขณะที่ดอกเบี้ยนโยบายไทยหากปรับขึ้น 1 ครั้งภายในปีนี้ จะอยู่ที่ระดับ 1.75% ดังนั้น ส่วนต่างระหว่างดอกเบี้ย Real Interest rate สหรัฐฯ อยู่ที่ 0.375% เทียบกับไทยที่ 0.23% ส่งผลให้ทิศทางเงินทุนต่างชาติยังมีโอกาสไหลออกจากตลาดเงินตลาดทุนไทย
ขณะที่ปัจจัยการลงทุนในเดือน ก.ค. นี้ ต้องติดตามทิศทาง Dollar Index ว่าจะแข็งค่าเกินระดับ 95 หรือไม่ หากดอลลาร์สหรัฐฯ ยังแข็งค่าจะส่งผลลบต่อ Fund Flow ในตลาดเกิดใหม่ รวมถึงประเด็นมาตรการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ต่อจีน หากยืดเยื้อจนมีการขึ้นภาษีต่อกันระดับ 2 แสนดอลลาร์สหรัฐฯ อาจจะส่งผลลบต่อการค้าโลก รวมถึงข้อจำกัดการลงทุนของต่างชาติในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิเคราะห์ประเมินความเสี่ยงว่า การปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นไทย น่าจะเริ่มลดลง และคาดว่าสหรัฐฯ คงไม่ใช้มาตรการกีดกันการค้าจนถึงขนาดเกิดวิกฤตค่าเงินหยวน และการขายพันธบัตรสหรัฐฯ มูลค่า 1.18 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่จีนถืออยู่
ทั้งนี้ ประเมินแนวรับที่ระดับ 1,540-1,595 จุด (Forward P/E 14.0-14.5x) แนะซื้อในกลุ่มธนาคาร BBL, KKP (สินเชื่อขยายตัวดี และน่าจะได้รับผลกระทบจากฟรีค่าธรรมเนียมโอนน้อย), กลุ่ม Domestic Play เช่น CPALL, ADVANC, กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง & นิคมฯ เช่น CK, STEC, AMATA และกลุ่มส่งออก เช่น CPF, GFPT, KCE
“หากมีการยืนยันจุดต่ำสุดบริเวณ 1,580-1,600 จุดจริง ดัชนี SET มีโอกาส Rebound กลับราว 80-100 จุด ประเด็นที่ต้องระวัง คือ ดัชนี Dollar Index จะต้องไม่แข็งค่าเกินกว่าระดับ 95 ซึ่งอาจจะส่งผลให้ดัชนี SET มีโอกาสผันผวนขาลงมากกว่าแนวรับที่ประเมินไว้ แนะนำซื้อ ณ ดัชนีบริเวณ 1,580 จุด” นายอภิชัย กล่าว