xs
xsm
sm
md
lg

“บล.โกลเบล็ก” มองหุ้นไทยขานรับน้ำมันพุ่ง-Window Dressing

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


บล. โกลเบล็ก เผยภาวะตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์สุดท้ายของเดือน มิ.ย. ได้อานิสงส์ราคาพุ่งแรง ขานรับผลการประชุมกลุ่มโอเปก มีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้อยกว่าคาด และแบงก์ชาติจีนประกาศลดสัดส่วนการกันสำรองแบงกพาณิชย์ หวังอัดฉีดเม็ดเงินเข้าระบบช่วยเหลือธุรกิจขนาดเล็ก ให้กรอบดัชนี 1,600-1,665 จุด แนะลงทุนหุ้นมีปัจจัยบวกรองรับ ส่วนราคาทองคำมีแนวโน้มชะลอตัว แนวต้านไม่เกิน 1,290 ดอลลาร์สหรัฐฯ

น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS กล่าวว่า ตลาดหุ้นในสัปดาห์นี้มีปัจจัยบวกมาจากราคาน้ำมันดิบปิดทะยานขึ้นขานรับผลการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ซึ่งมีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้อยกว่าคาด ประกอบกับแบงก์ชาติจีนประกาศลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลง 0.50% เริ่ม 5 ก.ค. อัดฉีดเม็ดเงินเข้าระบบ เพื่อช่วยธุรกิจขนาดเล็กให้สามารถระดมเงินทุนได้มากขึ้น รวมถึง Fund Flow ขายสุทธิลดลงในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา และ Window Dressing สิ้นงวดไตรมาส 2/2561

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยยังคงมีปัจจัยกดดันจากความกังวลว่า สงครามการค้าอาจลุกลามไปทั่วโลก หลังจากมีรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐฯ อาจสั่งห้ามไม่ให้บริษัทจีนเข้าไปลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐฯ รวมทั้งมาตรการตอบโต้จากประเทศต่างๆ ที่ถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯ ขณะที่มาตรการตอบโต้ของ EU ในการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้ามูลค่า 3.2 พันล้านดอลลาร์จากสหรัฐฯ จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันศุกร์นี้ (29 มิ.ย.)

นอกจากนี้ ยังคงมีปัจจัยที่น่าจับตา ได้แก่ ในวันที่ 26 มิ.ย. นี้ สหรัฐฯ รายงานตัวเลขดัชนีราคาบ้าน และความเชื่อมั่นผู้บริโภค วันที่ 27 มิ.ย. จีนรายงานกำไรภาคอุตสาหกรรมเดือน พ.ค. และสหรัฐฯ เปิดเผย ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือน พ.ค. ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายเดือน พ.ค. และสต๊อกน้ำมันรายสัปดาห์ รวมถึงวันที่ 28 มิ.ย. การประชุมสุดยอดของกลุ่มประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) หารือเรื่อง ปัญหาของกลุ่มผู้อพยพ Brexit และการจัดเก็บภาษีสินค้าโดยรัฐบาลสหรัฐฯ ส่วนอียูจะ เปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน มิ.ย. และความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเดือน มิ.ย. สหรัฐฯ มีกำหนดเปิดเผย GDP ไตรมาส 1/2561 (ประมาณการครั้งสุดท้าย) และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และในวันที่ 29 มิ.ย. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย

นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์โกลเบล็ก จำกัด กล่าวว่า สำหรับทิศทางตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มดีดตัว คาดดัชนี SET ผันผวนในกรอบ 1,600-1,665 จุด แนะนำซื้อเก็งกำไร หุ้นที่มีปัจจัยบวก ได้แก่ หุ้นเข้า SETHD แนะนำ BCP, GLOW, MAJOR, RATCH, SGP, SPRC, TOP และ TTW รวมถึงหุ้นเข้า SET50 แนะนำ BGRIM, DELTA, GLOW, KTC, RATCH และ TOA ซึ่งจะมีผล 2 ก.ค. นี้

นอกจากนี้ ยังแนะนำหุ้นที่มีโอกาสเป็นเป้าหมายในการทำ Window dressing ได้แก่ CPALL, ADVANC, CPN, EA, TVO และ GGC ได้ประโยชน์จากมาตรการภาษีสรรพสามิตสนับสนุนการใช้ไบโอดีเซลสูตร B20

ด้านแนวทางการลงทุนในทองคำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล. โกลเบล็ก กล่าวว่า ภาวะสงครามการค้าโลกยังคงมีผลกดดันให้เงินทุนไหลออกจากประเทศในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ และการที่ Fed ดึงเงินออกจากระบบเศรษฐกิจเร็วขึ้นผ่าน QE Tapering พร้อมกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่อง ส่งผลให้เงินไหลกลับสหรัฐฯ หนุนให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่า แนวโน้มราคาทองคำจึงเป็นขาลงที่มีการรีบาวนด์ได้เพียงเล็กน้อยในแต่ละครั้งที่มีแรงลบต่อสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ

อย่างไรก็ตาม ภาวะเงินไหลออก และดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่า ทำให้ค่าเงินบาทมีทิศทางอ่อนตัว จึงช่วยพยุงราคาทองคำในประเทศให้แกว่งแบบ sideway down เมื่อเทียบกับราคาตลาดโลกที่ปรับลงเป็นแนวโน้ม ซึ่งการดีดขึ้นไม่เกิน 1,290 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือยืนเหนือ 1,285 ดอลลาร์สหรัฐฯ ไม่ได้ จะถือเป็นโอกาสให้เข้า short เพื่อเล่นรอบ

ทั้งนี้ จึงแนะนำ ดักจังหวะเล่น swing short ในสินค้า Gold-D เพื่อลดความเสี่ยงเรื่องค่าเงินสำหรับพอร์ตเล่นสั้น ส่วนพอร์ตเล่นรอบควรทยอยปิดทำกำไรฝั่ง short เมื่อราคาปรับตัวลง และปิดทำกำไรทั้งหมดที่บริเวณ 1,240 ดอลลาร์สหรัฐฯ ก่อนประเมินทิศทางเพื่อเปิดสถานะใหม่อีกครั้ง


กำลังโหลดความคิดเห็น