xs
xsm
sm
md
lg

“TWZ” ฟันกำไรไตรมาสแรกโต 246% จากอสังหาฯ พลังงานหนุน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายกิตติพงศ์ กิตติภัสสร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและพัฒนาธุรกิจ บริษัท ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TWZ
TWZ ยอมรับรายได้ธุรกิจโทรคมนาคมไตรมาสแรกไม่เข้าเป้า แต่มียอดรับรู้รายได้จากธุรกิจอสังหาฯ จากโครงการเดอะเพเซอร์ พัทยา และรายได้จากการขายไฟเชิงพาณิชย์ให้กับ กฟภ. ประกอบกับการลดต้นทุน-ค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้กำไรสุทธิช่วง 3 เดือนแรก เติบโตได้สูงถึง 246% ลุ้นครึ่งปีหลัง กำลังซื้อฟื้นหนุนรายได้ขายโทรศัพท์มือถือกระเตื้อง ล่าสุด ได้รับมอบหมายจาก AIS ให้บริหารพื้นที่ดิจิทัล โซน ในเทสโก้ โลตัส เริ่มต้น 10 สาขา

นายกิตติพงศ์ กิตติภัสสร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและพัฒนาธุรกิจ บริษัท ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TWZ ผู้จำหน่ายและให้บริการต่างๆ เกี่ยวกับอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมชั้นนำ เปิดเผยว่า ในไตรมาสแรกปี 2561 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 20.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีกำไรสุทธิ 5.86 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 246% โดยปัจจัยหลักมาจากการรับรู้รายได้ยอดขายจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จากโครงการเดอะเพเซอร์ พัทยา ซึ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียมริมหาดจอมเทียน จำนวน 34.96 ล้านบาท โดยขณะนี้มียอดโอนแล้วประมาณ 10% จากจำนวนทั้งสิ้น 119 ห้อง นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังรับรู้รายได้จากการขายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ผ่านบริษัท เกียร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ที่ TWZ ถือหุ้นอยู่ 99.99% อีกด้วย

“ในไตรมาสแรก เรามีรายได้จากอสังหาริมทรัพย์และพลังงานทดแทนมาชดเชยกับรายได้จากธุรกิจโทรคมนาคม แต่หลังจากนี้ ในช่วงครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงปลายปี ซึ่งเป็นฤดูกาลขาย เราเชื่อว่ากำลังซื้อจะมีโอกาสกลับมาอีกครั้ง นอกจากนี้ ล่าสุด TWZ ยังได้ร่วมมือกับ AIS ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายรายใหญ่ ให้เข้าไปบริหารพื้นที่ดิจิทัล โซน ในห้างเทสโก้ โลตัส เริ่มต้นที่ 10 สาขา ได้แก่ สาขาแจ้งวัฒนะ, หลักสี่, รัตนาธิเบศน์, พระราม 3, ปิ่นเกล้า, บางนา-ตราด, สุขุมวิท 50, ศรีนครินทร์, ซีคอนสแควร์ และบางพลี ก็ทำให้มั่นใจว่าจะช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจโทรคมนาคมของ TWZ ได้ในระยะต่อไป” นายกิตติพงศ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของรายได้จากการขาย และบริการ ลดลง 18.90% จาก 995.54 ล้านบาท เหลือ 807.40 ล้านบาท เนื่องจากยอดขายโทรศัพท์เคลื่อนที่ และอุปกรณ์เสริม ลดลงตามสภาวะเศรษฐกิจของประเทศ ส่งผลให้รายได้รวมในไตรมาสแรก ลดลงประมาณ 20% แต่ในช่วงเดียวกันนั้น บริษัทฯ ได้บริหารค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในส่วนต้นทุนขาย และบริการ และค่าใช้จ่ายในการขาย และบริหาร ทำให้ค่าใช้จ่ายโดยรวมลดลงไปถึง 22% และทำให้ในไตรมาสแรก บริษัทฯ มีอัตราการขยายตัวของกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น


กำลังโหลดความคิดเห็น