xs
xsm
sm
md
lg

อสังหาฯ ไตรมาสส่อชะลอตัว “พฤกษา” แจงยอดขาย 12,696 ลบ. ลดลง 4.6%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

(แฟ้มภาพ) พฤกษา ฉลองครบรอบ 25 ปี ประกาศรีแบรนด์ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุด พร้อม  ดึง “ตูน (อาทิวราห์)” เป็น Brand Endorser เขย่าวงการอสังหาฯ
“พฤกษา” ระบุรายได้หลักยังคงเป็นธุรกิจอสังหาฯ เผยไตรมาสแรกยอดขาย 12,696 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 4.6 โดยโครงการที่เปิดขายเน้นกลุ่มทาวน์เฮาส์ กลุ่มผลิตภัณพ์บ้านเดี่ยว เพิ่มขึ้นร้อยละ 11 บริษัทมีกำไร เท่ากับ 862 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 10.3 ของรายได้รวม เผยพอร์ตโครงการที่อยู่ระหว่างการขาย (Active Project) จำนวน 188 โครงการ มูลค่ารวม 197,280 ล้านบาท กลุ่มทาวน์เฮาส์เยอะสุด 117 โครงการ มูลค่ารวม 93,151 ล้านบาท

นางสาวไตรทิพย์ ศิวะกฤษณ์กุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงินกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงผลประกอบการในไตรมาส1ของปี 2561 (ม.ค.-มี.ค. 61) ว่า ยังคงมาจากรายได้ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นหลัก โดยในไตรมาส 1 บริษัทมียอดขายจากธุรกิจอสังหาฯ 12,696 ล้านบาท ลดลง 607 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 4.6 เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/60 โดยในไตรมาส 1/2561 มีการเปิดโครงการใหม่จำนวน 15 โครงการ มูลค่าโครงการเท่ากับ (Project value) 9,794 ล้านบาท เมื่อเทียบกับโครงการที่เปิดใหม่ในรอบเวลาเดียวกันของปี 2560 จำนวน 12 โครงการ มูลค่าโครงการรวม (Project Value) เท่ากับ 12,175 ล้านบาท โดยยังคงเน้นที่การเปิดโครงการของกลุ่มทาวน์เฮาส์ จำนวน 10 โครงการ มูลค่ารวม 5,053 ล้านบาท และบ้านเดี่ยวจำนวน 4 โครงการ รวมมูลค่า 4,233 ล้านบาท และโครงการอาคารชุด จำนวน 1 โครงการ มูลค่า 509 ล้านบาท

สำหรับไตรมาส 1 ปี 61 บริษัทมียอดขายจากกลุ่มผลิตภัณฑ์บ้านเดี่ยวเพิ่มขึ้น 244 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.0 สำหรับผลิตภัณฑ์ทาวน์เฮาส์ และอาคารชุด บริษัทมียอดขายลดลง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จำนวน 359 ล้านบาท 493 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 7.0 และร้อยละ 8.3 ตามลำดับ

สำหรับไตรมาส 1 บริษัทมีรายได้ทั้งหมดมาจากกลุ่มธุรกิจอสังหาฯ ประกอบด้วยรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์เท่ากับ 8,352 ล้านบาท และรายได้อื่น 16 ล้านบาท รวมรายได้เท่ากับ 8,368 ล้านบาท

สำหรับผลประกอบการรอบ3 เดือนแรกของปี 61 ภาพรวมกลุ่มธุรกิจอสังหาฯ มีรายได้ 8,352 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 280 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 3.5 เมื่อเทียบกับรอบระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นการเพิ่มขึ้นจากผลิตภัณฑ์อาคารชุด 599 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 49.1 ส่วนหนึ่งเนื่องจากโครงการอาคารชุดใหม่ที่ถึงรอบในการโอนกรรมสิทธิ์ ได้แก่โครงการพลัมคอนโด โชคชัย 4 และโครงการเดอะทรี สุขุมวิท 64 สำหรับรายได้จากโครงการทาวน์เฮาส์ ลดลง 233 ล้านบาท หรือลดลงคิดเป็นร้อยละ 4.9 ส่วนรายได้จากโครงการบ้านเดี่ยวลดลง 78 ล้านบาท หรือลดลงคิดเป็นร้อยละ 3.8 และรายได้สำหรับโครงการต่างประเทศลดลง เนื่องจากโครงการโอนครบ 100% ในปี 2560 แล้ว และบริษัทยังไม่มีแผนในการเปิดโครงการในต่างประเทศเพิ่ม

บริหารต้นทุนขายอสังหาฯ

สำหรับไตรมาส 1 บริษัทมีต้นทุนขายอสังหาริมทรัพย์เท่ากับ 5,374 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 64.3 ของรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ ขณะที่ต้นทุนขายอสังหาริมทรัพย์ของไตรมาส 1 ปี 60 เท่ากับ 5,306 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 65.7 ของรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ อัตราต้นทุนขายสำหรับไตรมาส 1/ 61 ลดลงเมื่อเทียบกับรอบระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากการบริหาร และควบคุมต้นทุนได้ดีขึ้น

บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นแบ่งตามผลิตภัณฑ์ ดังนี้ ทาวน์เฮาส์มีกำไรขั้นต้นร้อยละ 35.8 บ้านเดี่ยวกำไรขั้นต้นร้อยละ 35.0 และอาคารชุดมีกำไรขั้นต้นร้อยละ 37.5 ซึ่งทุกผลิตภัณฑ์มีอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน

บริษัทมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารสำหรับรอบไตรมาส 1/61 เท่ากับ 1,853 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 22.1 ของรายได้รวม โดยเพิ่มขึ้นจากรอบระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน เท่ากับ 2 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 0.1 โดยแบ่งเป็นค่าใช้จ่ายในการขายเท่ากับ 862 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 10.3 ของรายได้รวม และค่าใช้จ่ายในการบริหารเท่ากับ 991 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 11.8 ของรายได้รวม

สำหรับค่าใช้จ่ายในการขายลดลงจากไตรมาส 1/60 จำนวน 32 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 3.6 ส่วนใหญ่มาจากค่าใช้จ่ายในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ลดลง 11 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างและตกแต่งสำนักงานขายอาคารชุดลดลง 29 ล้านบาท

ค่าใช้จ่ายในการบริหารไตรมาส 1/61 เท่ากับ 991 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 3.6 ซึ่งค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น มาจากค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับค่าเช่าสำนักงาน และค่าบำรุงรักษาระบบซอฟต์แวร์ และฮาร์ดแวร์ เพิ่มขึ้น 40 ล้านบาท เนื่องจากช่วงไตรมาส 4/2560 ได้มีการย้ายสำนักงานมาที่แห่งใหม่ และมีการเปลี่ยนระบบจัดเก็บข้อมูลใหม่ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ไตรมาสแรก บริษัทมีต้นทุนทางการเงินประมาณ 38 ล้านบาท ลดลง 14 ล้านบาท เมื่อเทียบกับรอบระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมถัวเฉลี่ยลดลง อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุน ณ วันที่ 31 มีนาคม 2561 เท่ากับ 0.70 และอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยหักเงินสด และรายการเทียบเท่าเงินสดต่อทุนเท่ากับ 0.66 ซึ่งเป็นอัตราส่วนที่ดีจากการบริหารจัดการหนี้สินของบริษัท และบริษัทย่อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

บริษัทมีกำไรสำหรับไตรมาส 1/2561 เท่ากับ 862 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 10.3 ของรายได้รวม และกำไรสำหรับรอบระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน เท่ากับ 681 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 8.4 ของรายได้รวม โดยบริษัทมีกำไรเพิ่มขึ้นเท่ากับ 181 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 26.6 มาจากรายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้น 280 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 3.5 ในขณะที่ต้นทุนขายเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 1.3 จากการบริหารต้นทุนขายได้ดีขึ้น

ณ วันที่ 31 มีนาคม 2561 กลุ่มธุรกิจอสังหาฯ มีโครงการที่เริ่มเปิดขาย และยังดำเนินงานอยู่ (Active Project) จำนวน 188 โครงการ มูลค่ารวมโครงการ (Total project value) 197,280 ล้านบาท แบ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ ดังนี้ ทาวน์เฮาส์ จำนวน 117 โครงการ มูลค่ารวม 93,151 ล้านบาท บ้านเดี่ยว จำนวน 48 โครงการ มูลค่ารวม 51,930 ล้านบาท โครงการอาคารชุดของกลุ่มธุรกิจ Value จำนวน 18 โครงการ มูลค่ารวม 38,630 ล้านบาท และโครงการอาคารชุดของกลุ่มธุรกิจ Premium จำนวน 5 โครงการ มูลค่ารวม 13,569 ล้านบาท

ณ วันที่ 31 มีนาคม 2561 บริษัทมีหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ย ประกอบด้วย เงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงินจำนวน 7,760 ล้านบาท และหุ้นกู้จำนวน 19,500 ล้านบาท ซึ่งออกหุ้นกู้โดยบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) แบ่งเป็นส่วนที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปี จำนวน 6,300 ล้านบาท และหุ้นกู้ระยะยาวจำนวน 13,200 ล้านบาท โดยในระหว่างไตรมาส 1/2561 มีการชำระคืนหุ้นกู้ จำนวน 2,000 ล้านบาท และออกตั๋วสัญญาใช้เงิน จำนวน 4,960 ล้านบาท ทั้งนี้เพื่อใช้ในการชำระคืนหุ้นกู้และบริหารสภาพคล่องของบริษัท.


กำลังโหลดความคิดเห็น