xs
xsm
sm
md
lg

กองทุนรวมข้ามพรมแดน คาดเริ่มเปิดขายไตรมาสสามปีนี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


สำนักงาน ก.ล.ต. เผยความคืบหน้าโครงการกองทุนรวมข้ามพรมแดน คาดเริ่มเปิดขายไตรมาสสามปีนี้ เตรียมนำร่องภายในสิงหาคมนี้ ปัจจุบัน คณะทำงาน ARFP อยู่ระหว่างสรรหาผู้เข้าร่วมโครงการนำร่อง (Pilot project) โดยให้บริษัทจัดการกองทุนรวม และผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้อง ได้ทดลองดำเนินงานภายใต้โครงการ ARFP ร่วมกับหน่วยงานกำกับดูแล

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์หรือ ก.ล.ต. เปิดเผยความคืบหน้าของโครงการจัดการกองทุนรวมภูมิภาคเอเชียข้ามพรมแดนภายใต้กรอบเอเปก (Asia Region Funds Passport: ARFP) เพื่อเปิดให้สามารถเสนอขายกองทุนรวมระหว่างประเทศสมาชิก ซึ่งประกอบด้วยออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ และไทย โดยเตรียมเริ่มโครงการนำร่องภายในสิงหาคม 2561

สืบเนื่องจากการประชุม ARFP เมื่อวันที่ 25-26 เมษายน 2561 มีสมาชิกจากหน่วยงานกำกับดูแลตลาดทุนจากออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ และไทย พร้อมกับผู้สังเกตการณ์จากหน่วยงานกำกับดูแลตลาดทุนของสิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ และฮ่องกง เข้าร่วมประชุมเพื่อหารือร่วมกันเกี่ยวกับขั้นตอนต่อไปในการเสนอขายกองทุนรวมภายใต้โครงการ ARFP ซึ่งได้ริเริ่มมาตั้งแต่ปี 2013

ในการหารือพบว่า การดำเนินการคืบหน้าตามแผนโดยในด้านการออกกฎหมาย และกฎเกณฑ์ เพื่อรองรับโครงการ ARFP ของประเทศสมาชิกนั้น ญี่ปุ่น และไทย ได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ส่วนออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และเกาหลีใต้อยู่ระหว่างเสนอร่างกฎหมายให้ผ่านการพิจารณาของสภา ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 3 ของปี 2561

ปัจจุบัน คณะทำงาน ARFP อยู่ระหว่างสรรหาผู้เข้าร่วมโครงการนำร่อง (Pilot project) โดยให้บริษัทจัดการกองทุนรวม และผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้อง ได้ทดลองดำเนินงานภายใต้โครงการ ARFP ร่วมกับหน่วยงานกำกับดูแล โดยหน่วยงานกำกับดูแลจะอำนวยความสะดวกให้การดำเนินงานของโครงการนำร่องเป็นไปอย่างราบรื่น ตั้งแต่กระบวนการพิจารณาใบสมัครจนถึงการให้คำปรึกษาทางด้านกฎหมาย และภาษี

โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มโครงการนำร่องได้ในช่วงประมาณเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2561 จากนั้น จะมีการประเมินกระบวนการดำเนินงาน เพื่อดูว่ามีส่วนใดของกระบวนการที่สามารถปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นต่อไป ทั้งในฝั่งประเทศที่กองทุนจัดตั้ง (home country) และประเทศที่กองทุนไปเสนอขาย (host country)

ทั้งนี้ ประโยชน์ของ ARFP คือ ขยายโอกาสและเพิ่มช่องทางการตลาดให้แก่ผู้ประกอบการไทยในการนำกองทุนรวมไทยไปเสนอขายในประเทศที่นักลงทุนมีศักยภาพ และเป็นการเพิ่มทางเลือกการลงทุนให้ผู้ลงทุนไทย

นอกจากนี้ คณะทำงาน ARFP ยังได้มีการหารือกันในประเด็นอื่นๆ อาทิ การเพิ่มจำนวนประเทศสมาชิก การปรับปรุงเนื้อหาของคู่มือการดำเนินงาน ARFP และการนำเสนอข้อมูลจากคณะทำงานด้านภาษี โดยตกลงที่จะมีเอกสารระบุข้อมูลทางภาษีของประเทศสมาชิก

สำหรับการเสนอขายกองทุนรวมภายใต้โครงการ ARFP รวมทั้งการวางแผนจัดงานประชุมกับผู้ประกอบการธุรกิจ เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมของภาคเอกชน แสดงให้เห็นถึงโอกาสในการขยายธุรกิจ รวมถึงความท้าทายต่างๆ ภายใต้โครงการ ARFP อาทิ ความเป็นไปได้ในการปรับกฎเกณฑ์ต่างๆ ของประเทศสมาชิก และภาระภาษี ซึ่งในกรณีของไทย ที่ผ่านมา ก.ล.ต. ได้สื่อสารกับภาคเอกชน เพื่อเตรียมความพร้อมในการขยายตลาดไปยังต่างประเทศ และพร้อมรับมือกับ passport fund จากต่างประเทศที่มาเสนอขายในไทยได้


กำลังโหลดความคิดเห็น