ทีทีเอฟฯ ระบุทำเลที่ตั้งหนุนไทยเป็นศูนย์กลาง AEC ดึงดูดต่างชาติปักธงธุรกิจ หวังใช้เป็นฐานขยายตลาดสู่กลุ่มประเทศอาเซียน เผยอุตสาหกรรมก่อสร้าง เครื่องมือช่าง วัสดุอุปกรณ์ช่าง เทคโนโลยีก่อสร้าง และนวัตกรรมใหม่ แห่ออกบูทงานสถาปนิก เปิดตัวสินค้านวัตกรรม และเทคโนโลยีใหม่ๆ หวังหาพันธมิตรคู่ค้า ตัวแทนจำหน่าย แจงปี 61 ต่างชาติออกบูทเพิ่ม 35% ด้าน “DESS” ผู้ผลิตเครื่องมือช่างจากไต้หวัน เผยออกบูทงานสถาปนิก 5 ปีติด เล็งหาตัวแทนจำหน่ายในไทยก่อนขยายตลาดสู่เพื่อบ้าน AEC
นับจากประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC มีความร่วมมือกันอย่างเต็มรูปแบบ ส่งผลประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลาง และประตูสู่กลุ่มประเทศอาเซียน ทำให้ไทยกลายเป็นเป้าหมายในการลงทุน และการตั้งฐานธุรกิจของประเทศต่างๆทั่วทุกมุมโลก โดยเฉพาะหลังการลงทุนโครงข่ายพื้นฐานด้านคมนาคมและการขนส่ง รวมถึงความชัดเจนของภาครัฐ กับนโยบายการพัฒนาโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ทำให้กลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมและการขนส่ง รวมไปถึงกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจก่อสร้างหมายมั่นปั้นมือใช้ไทยเป็นฐานในการขยายธุรกิจไปในกลุ่มประเทศ AEC
นายศุภแมน มรรคา ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ทีทีเอฟ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มดังกล่าว ทำให้ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มีกลุ่มธุรกิจ และอุตสาหกรรมก่อสร้าง และอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องจากประเทศต่างๆ ทั้งจากภูมิภาคเอเชีย ยุโรป และสหรัฐฯ ขยายตลาดเข้าสู่ประเทศไทย โดยหวังจะใช้ไทยเป็นฐานในการขยายโอกาสทางธุรกิจไปสู่ประเทศในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจจากประเทศจีน, เกาหลีใต้, ไต้หวัน, มาเลเชีย, สิงคโปร์ และเวียดนาม ซึ่งเข้ามาหาคู่ค้า และตัวแทนจำหน่ายสินค้า ซึ่งการออกบูทในงานสถาปนิก'61 ครั้งล่าสุด ถือเป็นช่องทางหนึ่งในการนำเสนอ และเปิดตัวสินค้า รวมถึงนำเสนอนวัตกรรมการก่อสร้างใหม่ๆ เพื่อหาคู่ค้าในประเทศไทย
ทั้งนี้ กลุ่มธุรกิจก่อสร้าง และสินค้าวัสดุก่อสร้าง ที่เข้ามาออกบูทในงานสถาปนิก มีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่องในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในปี 61 มีบริษัทเครื่องมือช่าง วัสดุก่อสร้าง และเทคโนโลยีการก่อสร้างใหม่ๆ ได้เข้าร่วมออกบูธเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนเพิ่มขึ้นกว่า 35% หรือกว่า 300 ราย จากจำนวนบริษัทที่ออกบูทในงานรวม 850 ราย เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่มีสัดส่วนบริษัทต่างชาติที่เข้ามาออกบูท 28%
“ได้พูดคุยกับบริษัทต่างชาติ พบว่าส่วนใหญ่มีเป้าหมายเพื่อนำเสนอนวัตกรรม และสินค้าใหม่ และที่สำคัญที่สุด คือ การหาคู้ค่าและตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย เนื่องจากมองว่า ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในประเทศภูมิภาคอาเซียน และจะเป็นฐานสำคัญในการขยายตลาดและส่งสินค้าไปขายในกลุ่มประเทศอาเซียน” นายศุภแมน กล่าวและว่า การเข้ามาออกบูทในงานสถาปนิกของบริษัทต่างชาติ จะช่วยดึงดูดให้กลุ่มผู้ชมงานทั้งต่างชาติ และคนไทย เข้ามาชมงานมากขึ้น และหวังว่าในปี 2562 จะมีบริษัทต่างชาติเข้ามาออกบูทเพิ่มขึ้น รวมถึงจำนวนผู้ชมงานที่เพิ่มขึ้นด้วย
นายบิล หวง (Mr. Bill Huang) ผู้อำนวยการ บริษัท DESS INDUSTRIAL ผู้ผลิตและส่งออกเครื่องมือช่าง แบรนด์ “WELL FGRCE” และรับจ้างผลิตเครื่องมือช่าง จากประเทศไต้หวัน กล่าวว่า DESS มีที่ตั้งโรงงานอยู่ในเมืองไทจงซิตี โดยรับจ้างผลิตในแบรนด์ต่างๆ มีรายได้ต่อปี 13 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยส่วนใหญ่ส่งออกไปในกลุ่มประเทศยุโรป สหรัฐฯ และกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ส่วนในเอเชียส่งออกไปที่ประเทศญี่ปุ่น และมาเลเซีย ผ่านตัวแทนจำหน่าย และการรับจ้างผลิต
ทั้งนี้ DESS ได้ออกบูทในงานสถาปนิกมา 5 ปีแล้ว มีเป้าหมายเพื่อนำเสนอเครื่องมือช่างคุณภาพ และหาพันธมิตรทางการค้าเป็นหลัก ที่ผ่านมา เคยเจรจากับบริษัทโมเดิร์นเทรด ผู้จำหน่ายเครื่องมืออุประกรณ์ตกแต่งบ้าน และนำเสนอสินค้ามาบ้างแล้ว แต่ผู้ประกอบการเหล่านั้นเพียงแค่สั่งซื้อสินค้าบางส่วนของบริษัท เพื่อนำไปขายเท่านั้น ทำให้บริษัทยังไม่สามารถทำตลาดได้เต็มที่ ดังนั้น บริษัทจึงต้องการหาตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย โดยวางคุณสมบัติของตัวแทนจำหน่าย ต้องมีช่องทางการจำหน่ายทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ สามารถกระจายสินค้าได้ทั่วประเทศ สำหรับสินค้าหลักที่ผลิตและส่งออกมากที่สุด เป็นกลุ่มเครื่องมือช่าง, อุปกรณ์งานช่างฝ้า, ผนัง และอุปกรณ์งานช่างกระเบื้อง
“ที่ DESS สนใจและต้องการหาตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย เพราะมองว่าประเทศไทยมีศักยภาพในการขยายตัวสูง ประกอบกับสามารถเป็นฐานในการขยายตลาดไปสู่ประเทศต่างในภูมิภาคอาเซียน เนื่องจากมีทำเลที่ตั้งอยู่ในศูนย์กลางของกลุ่มประเทศ AEC และเศรษฐกิจของไทย มีอัตราการขยายตัวที่แข็งแกร่ง”.