xs
xsm
sm
md
lg

โฮมโปรฯ เผย Q1 กวาดรายได้ 15,900 ล้านบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

คุณวุฒิ ธรรมพรหมกุล
“โฮมโปร” โชว์ผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 61 กวาดรายได้รวม 15,900.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 627.77 ล้านบาท หรือเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 4.11% แจงกำไรสุทธิ 1,248.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 202.25 ล้านบาท หรือ 19.33% หลังประสบความสำเร็จคุมต้นทุนบริหารจัดการค่าใช้จ่าย ปรับเปลี่ยนกลุ่มสินค้า ให้ครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้า เพิ่มสินค้าเฮาส์แบรนด์ เปิดบริการ HomePro Service Application เพิ่มช่องทางสื่อสารผ่าน Mobile Application ครอบคลุมงานบริการ 40 รายการ

นายคุณวุฒิ ธรรมพรหมกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ โฮมโปร กล่าวว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/61 บริษัทฯ มีผลกำไรสุทธิ 1,248.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 202.25.05 ล้านบาท หรือ 19.33% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยหลักที่มาจาก รายได้รวม จำนวน 15,900.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 627.77 ล้านบาท หรือ 4.1% โดยเพิ่มขึ้น โดยมีรายได้จากการขาย 14,874.75 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 604.06 ล้านบาท หรือ 4.23% เป็นผลมาจากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม และโฮมโปรที่ประเทศมาเลเซีย รวมถึงการเติบโตของยอดขายจากสาขาใหม่ทั้งธุรกิจโฮมโปร, เมกา โฮม และโฮมโปรที่ประเทศมาเลเซีย

“บริษัทฯ มีรายได้ค่าเช่า และบริการอีก จำนวน 499.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.02 ล้านบาท หรือ 3.75% เป็นผลมาจากรายได้ค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นจากพื้นที่เช่าภายในศูนย์การค้ามาร์เกต วิลเลจ นอกจากนี้ ยังมีรายได้อื่น จำนวน 526.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.68 ล้านบาท หรือ 1.09 % โดยเป็นผลมาจากการเติบโตของรายได้จากค่าบริการ Home Service”

สำหรับไตรมาสแรกของปีนี้ โฮมโปรฯ มีกำไรขั้นต้น 3,990.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 279.11 ล้านบาท หรือ 7.52% เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นต่อยอดขายเพิ่มขึ้นจาก 26.01% ในปีก่อน มาอยู่ที่ 26.83% โดยเป็นผลมาจากการปรับเปลี่ยนของส่วนผสมสินค้ามีไว้เพื่อขายทั้งกลุ่มสินค้าทั่วไป และกลุ่มสินค้า Direct Sourcing รวมถึงธุรกิจเมกาโฮม ที่มีอัตราการทำกำไรที่ดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม ในไตรมาสนี้โฮมโปรฯ มีค่าใช้จ่ายในการขาย และการบริหาร อยู่ที่ 3,384.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 76.69 ล้านบาท หรือ 2.32% เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องมาจากมีค่าใช้จ่ายในส่วนของกลุ่มเงินเดือน ต้นทุนในการให้บริการแก่ลูกค้า ต้นทุนค่าขนส่ง และค่าซ่อมแซม อย่างไรก็ตาม แม้ว่าค่าใช้จ่ายในเบื้องต้นจะเพิ่มขึ้น แต่อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อยอดขายมีการปรับตัวดีขึ้น โดยลดลงจาก 23.18% ในปีก่อน มาอยู่ที่ 22.75% ซึ่งเป็นผลมาจากการบริหารและควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

นายคุณวุฒิ กล่าวว่า ในไตรมาสแรกของปี 61 เศรษฐกิจมีแนวโน้มปรับตัวไปในทิศทางบวก โดยมีแรงขับเคลื่อนจากแรงส่งจากภาคอุตสาหกรรมจากครึ่งหลังของปี 60 มีผลต่อเนื่องถึงภาคการส่งออก และจำนวนนักท่องเที่ยวที่ยังคงมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้กำลังซื้อของผู้บริโภคในพื้นที่ที่ได้รับอานิสงส์ดังกล่าวโดยเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีการจับจ่ายใช้สอยที่เพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม ราคาพืชผลทางการเกษตรมีการปรับตัวขึ้นเล็กน้อย แต่ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ ทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคที่อยู่ในภาคการเกษตรยังคงชะลอตัว ส่งผลให้ยอดขายในบางจังหวัด รวมถึงธุรกิจ เมกา โฮม ยังไม่เป็นไปตามเป้าที่คาดไว้ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ เช่น งาน HomePro Expo วันช่วงวันที่ 16-25 มีนาคม 2561 และการจัด HomePro Fair ที่หาดใหญ่ และขอนแก่น ซึ่งมียอดขายโดยรวมอยู่ในระดับที่น่าพอใจ

จากสถานการณ์ที่ได้คาดการณ์ไว้ล่วงหน้า บริษัทฯ จึงได้มุ่งเน้นในเรื่องของการเพิ่มประสิทธิภาพของอัตราการทำกำไรในแต่ละกลุ่มสินค้าให้ดีขึ้น เช่น การเพิ่มสัดส่วนสินค้ากลุ่มสินค้า Direct Sourcing การเลือกสินค้าจากแหล่งต่างๆ ให้ได้ต้นทุนในราคาที่เหมาะสม การเพิ่มคุณภาพของสินค้าให้อยู่ในระดับที่ดีขึ้น การวางแผนการจัดซื้อสินค้า

นอกจากนี้ โฮมโปรฯ ได้เปิดตัวบริการใหม่ HomePro Service Application ซึ่งใช้เป็นช่องทางในการติดต่อสื่อสารสำหรับซื้อบริการ Home service ผ่าน Mobile Application ครอบคลุมงานบริการมากกว่า 40 รายการ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ในการเติบโตในอนาคต


กำลังโหลดความคิดเห็น