“ครอบครัวณรงค์เดช” และ “กลุ่มบริษัทเคพีเอ็น” ออกแถลงการณ์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ “ณพ ณรงค์เดช” กรณีลงทุนใน WEH เผยที่ผ่านมา แอบอ้างชื่อเสียงครอบครัวหาประโยชน์ส่วนตัวมาตลอด ทั้งที่ครอบครัวไม่เกี่ยวข้อง ลั่นถ้ายังแอบอ้างอีกจะดำเนินการตามกฎหมายแน่
วันนี้ (30 เม.ย.) มีการเผยแพร่คำแถลงการณ์ของ “ครอบครัวณรงค์เดช” และ “กลุ่มบริษัทเคพีเอ็น” โดยดร. เกษม นายกฤษณ์ และนายกรณ์ ณรงค์เดช เกี่ยวกับกรณี นายณพ ณรงค์เดช โดยมีข้อความระบุว่า
เนื่องจากปัจจุบันปรากฏข่าวมากมายในเรื่องของความเกี่ยวพันระหว่างครอบครัวณรงค์เดช กับบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด (WEH) ออกมาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ครอบครัวณรงค์เดช โดย ดร. เกษม ณรงค์เดช ผู้ก่อตั้งกลุ่มบริษัทเคพีเอ็น นายกฤษณ์ ณรงค์เดช ประธานกรรมการกลุ่มบริษัทเคพีเอ็น และนายกรณ์ ณรงค์เดช รองประธานกรรมการกลุ่มบริษัทเคพีเอ็น จึงมีความจำเป็นต้องส่งแถลงการณ์ต่อสาธารณะเพื่อให้ทราบโดยทั่วกันว่า การดำเนินการใดๆ ของนายณพ ณรงค์เดช ที่ผ่านมา และต่อจากนี้ ครอบครัวไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น
โดยรายละเอียดของสาเหตุที่ต้องแถลงการณ์ในครั้งนี้ เริ่มจากประมาณ 2 ปีที่แล้ว นายณพ ณรงค์เดช ได้ขอความช่วยเหลือจากครอบครัวณรงค์เดช ในเรื่องการจัดหาเงินเพื่อลงทุนซื้อหุ้นในบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด (WEH) ซึ่งต่อมา ครอบครัวณรงค์เดช ก็ให้ความช่วยเหลือในการให้ยืมเงินสด การให้นำทรัพย์สินของครอบครัวณรงค์เดช และทรัพย์สินอื่นที่ครอบครัวณรงค์เดช จัดหามาไปเป็นหลักประกันในการจัดหาเงินทุนเพิ่มเติม
แต่หลังจากที่นายณพ ณรงค์เดช ได้รับความช่วยเหลือดังกล่าว นายณพ กลับดำเนินการใดๆ โดยใช้ชื่อเสียงของครอบครัวณรงค์เดช ไปแอบอ้างเพื่อประโยชน์ส่วนตนโดยลำพัง โดยทางครอบครัวณรงค์เดช ไม่ได้รับการเปิดเผยข้อมูลที่สำคัญหลายประการ ไม่มีส่วนในการรับรู้ถึงรายละเอียดของการดำเนินการเกี่ยวกับการลงทุนดังกล่าว ไม่มีส่วนร่วมในการตัดสินใจหรือบริหารงานใดๆ ในบริษัทที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อการลงทุนที่ผ่านมา แม้นายณพ จะให้นายกรณ์ ณรงค์เดช ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการฯ ของ WEH ก็ตาม แต่นายกรณ์ ก็ถูกกีดกันไม่ได้รับรู้ในรายละเอียด หรือร่วมตัดสินใจในการดำเนินการใดๆ ของ WEH จนนายกรณ์ ตัดสินใจลาออกจากการเป็นกรรมการบริษัทในเวลาต่อมา
ข้อมูลส่วนใหญ่ที่เกี่ยวกับการดำเนินการใน WEH ของนายณพ ณรงค์เดชนั้น ครอบครัวณรงค์เดชได้รับรู้จากข่าวที่เผยแพร่ทางสาธารณะ ทำให้ทางครอบครัวณรงค์เดช กังวลกับข่าวต่างๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือ และชื่อเสียงของครอบครัวณรงค์เดชเป็นอย่างยิ่ง
จึงเรียนชี้แจงเพื่อความเข้าใจโดยทั่วกัน และขอเน้นย้ำว่า การดำเนินการใดๆ ของนายณพ ณรงค์เดช ที่ผ่านมา และต่อจากนี้ ครอบครัวณรงค์เดช ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และหากมีการนำชื่อของกลุ่มบริษัทเคพีเอ็น หรือครอบครัวณรงค์เดช ไปใช้ โดยไม่ปรากฏว่ามีสมาชิกครอบครัวณรงค์เดช ได้แก่ ดร. เกษม ณรงค์เดช นายกฤษณ์ ณรงค์เดช และนายกรณ์ ณรงค์เดช อยู่ด้วย ขอให้ทราบว่า การกระทำดังกล่าวนั้นเป็นการแอบอ้าง โดยครอบครัวณรงค์เดชไม่ได้รับรู้ หรือให้ความยินยอมทั้งสิ้น โดยจะดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่เกี่ยวข้องให้ถึงที่สุด
สำหรับนายณพ ณรงค์เดช เป็นลูกชายคนกลางของ ดร. เกษม และคุณหญิงพรทิพย์ ณรงค์เดช สมรสกับ พอฤทัย ณรงค์เดช (บุณยะจินดา) มีบุตรชาย 2 คน ก่อนหน้านี้ นายณพ ได้รับมอบหมายให้นั่งเก้าอี้ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เคพีเอ็น มิวสิค จำกัด และบริษัทในเครือ
ต่อมา นายณพ ได้ลงทุนซื้อหุ้น บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด (WEH) เพื่อทำธุรกิจด้านพลังงานหมุนเวียน และได้ดำรงตำแหน่งรองประธานคณะกรรมการบริษัท ขณะที่กำลังเตรียมนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ ได้เกิดความขัดแย้งกับกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิม จนกลุ่มอดีตผู้ถือหุ้น WEH ร่วมกันยื่นฟ้องต่อศาลแขวงพระนครใต้ เพื่อดำเนินคดีอาญากับนายณพ ณรงค์เดช และบริษัท เคพีเอ็น เอนเนอยี โฮลดิ้ง จำกัด (KPNEH) พร้อมพวกรวม 13 ราย ในความผิดฐานโกงเจ้าหนี้ด้วยการร่วมกันจำหน่ายจ่ายโอนหุ้นหรือรู้เห็นยินยอมให้มีการจำหน่ายจ่ายโอนหุ้นของ WEH เพื่อไม่ให้โจทก์ได้รับชำระหนี้ แม้ว่าจะได้ใช้สิทธิเรียกร้อง และสิทธิบังคับชำระหนี้ตามกฎหมายแล้ว โดยศาลนัดไกล่เกลี่ยวันที่ 20 เม.ย. 61 ที่ผ่านมา และนัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 8 พ.ค. 61
ส่วนจำเลยที่ถูกฟ้องนอกจากนายณพ และ บริษัท KPNEH ยังประกอบด้วย บุคคลในตระกูลณรงค์เดช ได้แก่ นางพอฤทัย ณรงค์เดช, นายกฤษณ์ ณรงค์เดช, นายเกษม ณรงค์เดช รวมทั้งผู้บริหารและกรรมการในบริษัทที่เกี่ยวข้องในคดี ได้แก่ นางเอมม่า ลูอิส คอลลินส์, นายธันว์ เหรียญสุวรรณ, บริษัท เคพีเอ็น เอนเนอร์ยี (ประเทศไทย) จำกัด (KPNET), นายณัฐวุฒิ เภาโบรมย์, นายอมาน ลาคานี, นายสันติ ปิยะทัต, นายไพร บัวหลวง และนายวรนิต ไชยหาญ