ศูนย์ข่าวศรีราชา - ครอบครัว นตท.ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือน้องเมย เตรียมหอบหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ เข้ากองทัพไทย หลังนำข้อมูลปรึกษา “หมอพรทิพย์ โรจนสุนันท์” เพื่อเป็นแนวทางในการพูดคุย ยันมีข้อมูลน่าสงสัยหลายประการ พร้อมทั้งประเด็นที่พบใหม่ ซึ่งเกิดจากความผิดปกติของอวัยวะ และรอยบอบช้ำตามร่างกายที่ยังไม่เคยได้รับคำตอบ นอกจากข้อกล่าวอ้างเรื่อง “หัวใจล้มเหลมเฉียบพลัน” ยืนยันซี่โครงซี่ที่ 4 ไม่ได้หักจากการทำ CPR
วันนี้ (16 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก น.ส.สุพิชา ตัญกาญจน์ หรือเมี่ยง พี่สาวของ นตท.ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย ซึ่งเสียชีวิตปริศนาเมื่อวันที่ 17 ต.ค.2560 ที่ผ่านมา โดยได้รับเพียงคำชี้แจงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในกองทัพไทย ว่า เกิดจากภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน ว่า ในวันนี้แม้การเสียชีวิตจะล่วงเลยมาเกือบ 100 วันแล้ว แต่ก็ดูเหมือนว่าความคืบหน้าทางคดีจะยังไม่มีอะไรชัดเจนเช่นเคย
ในสัปดาห์หน้า ทางครอบครัวจะนำหลักฐานทั้งหมดที่มี และข้อมูลทางนิติวิทยาศาสตร์ทั้งหมด รวมทั้งข้อสังเกตหลายประการที่เกิดจากความผิดปกติในอวัยวะ และรอยบอบช้ำต่างๆ เข้าพูดคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในกองทัพไทย พร้อมทั้งข้อรับทราบผลการสอบสวนข้อเท็จจริงต่างๆ ที่กองทัพไทยได้ดำเนินการไปก่อนหน้า
ที่ผ่านมา ครอบครัวตัญกาญจน์ ได้นำข้อมูลทางนิติวิทยาศาสตร์ รวมทั้งภาพการผ่าพิสูจน์ศพที่ได้รับจากโรงพยาบาลพระมงกุฏฯ เข้าขอรับคำปรึกษาจากแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ จนเกิดการตั้งข้อสังเกตในหลายประการ โดยหวังว่า จะได้รับคำตอบที่ชัดเจนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในวันที่เดินทางเข้าพบผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่างๆ ด้วย
“วันนี้เราพร้อมแล้วที่จะนำข้อมูลที่มีทั้งหมดเข้าไปยังกองทัพไทย ซึ่งขณะนี้ก็ได้ตั้งข้อสงสัยจากหลักฐานที่มีได้หลายข้อแต่ยังเปิดเผยไม่ได้ แต่ประเด็นสำคัญยังคงพุ่งเป้าไปที่เรื่องภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน และการยืนยันของแพทย์ที่ผ่าพิสูจน์ว่า น้องชาย เป็นโรคหัวใจว่าเป็นเช่นนั้นจริงหรือไม่ และเรายังยืนยันว่า ประเด็นซี่โครงซี่ที่ 4 หัก ไม่ใช่เกิดจากการทำ CPR อย่างแน่นอน เพราะมีข้อบ่งชี้ที่สามารถพิสูจน์ได้หลายประการ ที่สำคัญเรายังจะได้เข้าไปดูรายละเอียดว่า การสอบสวนผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดที่ทางกองทัพไทย ตั้งคณะกรรมการดำเนินการในช่วงที่ผ่านมา มีรายละเอียดอย่างใด” น.ส.สุพิชา กล่าว
ขณะที่ นางสุกัญญา ตัญกาญจน์ มารดาของน้องเมย บอกว่า ในวันนี้แม้บุตรชายจะเสียชีวิตครบ 100 วัน แต่ทางครอบครัวก็ยังทำใจไม่ได้ และในวันที่ 26 ม.ค.นี้ ก็เตรียมที่จะจัดพิธีทำบุญ 100 วัน เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ลูกชาย และยังเตรียมที่จะหล่อพระประธานปางมารวิชัย เพื่ออุทิศส่วนกุศล โดยหวังว่าผลบุญทั้งหมดจะส่งผลให้บุตรชายได้ไปอยู่ในภพภูมิที่ดี และยังจะทำให้ความจริงกระจ่างเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อบุตรชายให้มากที่สุด