xs
xsm
sm
md
lg

สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 24 เม.ย. 2561

- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 400 จุดเมื่อคืนนี้ (24 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่พุ่งขึ้นแตะระดับ 3% เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปีนั้น จะส่งผลให้ต้นทุนการกู้ยืมของภาคเอกชนปรับตัวสูงขึ้น และอาจเป็นปัจจัยที่ผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ โดยความวิตกกังวลในเรื่องดังกล่าวได้บดบังปัจจัยบวกจากรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงแคทเธอร์พิลลาร์ และล็อคฮีด มาร์ติน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,024.13 จุด ร่วงลง 424.56 จุด หรือ -1.74% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,634.56 จุด ลดลง 35.73 จุด หรือ -1.34% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,007.35 จุด ลดลง 121.25 จุด หรือ -1.70%

- ตลาดหุ้นยุโรปปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (24 เม.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่พุ่งขึ้นแตะระดับ 3% เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปีนั้น อาจส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีร่วงลงเป็นเดือนที่ 5 ในเดือน เม.ย.

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.02% ปิดที่ 383.11 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมัน ปิดที่ 12,550.82 จุด ลดลง 21.57 จุด หรือ -0.17% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปิดที่ 5,444.16 จุด เพิ่มขึ้น 5.61 จุด หรือ +0.10% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดที่ 7,425.40 จุด เพิ่มขึ้น 26.53 จุด หรือ +0.36%

- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 6 เมื่อคืนนี้ (24 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบเบรนต์ พุ่งขึ้นเหนือระดับ 75 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรลในระหว่างวัน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากรายงานข่าวที่ว่า บริษัททาเคดะ ฟาร์มาซูติคัล ยังคงเดินหน้าเสนอซื้อกิจการของไชร์ ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ของยุโรป

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดที่ 7,425.40 จุด เพิ่มขึ้น 26.53 จุด หรือ +0.36%

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์ก ปิดบวกเมื่อคืนนี้ (24 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาทองคำร่วงลงติดต่อกัน 3 วันทำการก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงลงอย่างหนัก อันเนื่องมาจากความกังวลที่ว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่พุ่งขึ้นแตะระดับ 3% เมื่อคืนนี้ อาจผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้น 9 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 0.7% ปิดที่ 1,333 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน พ.ค. เพิ่มขึ้น 11.6 เซ็นต์ หรือ 0.70% ปิดที่ 16.703 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือน ก.ค. เพิ่มขึ้น 12.6 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 1.37% ปิดที่ 935 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือน มิ.ย. ลดลง 7.90 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 0.8% ปิดที่ 971.65 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์

- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์ก ปิดลบเมื่อคืนนี้ (24 เม.ย.) เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับข้อตกลงนิวเคลียร์ของอิหร่าน ได้ส่งผลให้นักลงทุนเทขายสัญญาน้ำมันเพื่อทำกำไร ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตารายงานสต๊อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันนี้

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ค. ลดลง 94 เซ็นต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 67.70 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือน มิ.ย. ลดลง 85 เซ็นต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 73.86 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

- ดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน และสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (24 เม.ย.) หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ พุ่งทะลุระดับ 3% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2557 ซึ่งส่งผลให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐฯ ยังได้ปัจจัยหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงยอดขายบ้านใหม่ที่พุ่งขึ้นเกินคาดในเดือน มี.ค.

ดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 108.69 เยน จากระดับ 108.64 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9787 ฟรังก์ จากระดับ 0.9785 ฟรังก์

ดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ระดับ 0.7598 ดอลลาร์สหรัฐฯ จากระดับ 0.7603 ดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่เงินยูโรแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.2237 ดอลลาร์สหรัฐฯ จากระดับ 1.2206 ดอลลาร์สหรัฐฯ และเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.3972 ดอลลาร์สหรัฐฯ จากระดับ 1.3936 ดอลลาร์สหรัฐฯ

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดที่ 24,024.13 จุด ลดลง 424.56 จุด, -1.74%
ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดที่ 2,634.56 จุด ลดลง 35.73 จุด, -1.34%
ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดที่ 7,007.35 จุด ลดลง 121.25 จุด, -1.70%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมัน ปิดที่ 12,550.82 จุด ลดลง 21.57 จุด, -0.17%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปิดที่ 5,444.16 จุด เพิ่มขึ้น 5.61 จุด, +0.10%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดที่ 7,425.40 จุด เพิ่มขึ้น 26.53 จุด, +0.36%
ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดีย ปิดที่ 34,616.64 จุด เพิ่มขึ้น 165.87 จุด, +0.48%
ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ปิดที่ 3,584.56 จุด เพิ่มขึ้น 5.02 จุด, +0.14%
ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ปิดที่ 1,865.34 จุด ลดลง 15.02 จุด, -0.80%
ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย ปิดที่ 6,229.64 จุด ลดลง 78.51 จุด, -1.24%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดที่ 30,636.24 จุด เพิ่มขึ้น 381.84 จุด, +1.26%
ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ปิดที่ 7,600.36 จุด ลดลง 119.11 จุด, -1.54%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ปิดที่ 3,128.93 จุด เพิ่มขึ้น 60.92 จุด, +1.99%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย ปิดที่ 5,921.60 จุด เพิ่มขึ้น 35.60 จุด, +0.60%

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลีย ปิดที่ 6,009.40 จุด เพิ่มขึ้น 33.40 จุด, +0.56%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ปิดที่ 2,464.14 จุด ลดลง 9.97 จุด, -0.40%
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปิดที่ 22,278.12 จุด เพิ่มขึ้น 190.08 จุด, +0.86%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ปิดที่ 10,579.50 จุด ลดลง 117.63 จุด, -1.10%


กำลังโหลดความคิดเห็น