ธนาคารแห่งประเทศไทยระบุกรณีการนำธนบัตรแบบใหม่ชนิดราคา 20 บาท 50 บาท และ 100 บาท ที่จะออกใช้ในวันจักรีนั้น สามารถเบิกจ่ายจากตู้เอทีเอ็ม และสาขาที่เปิดให้บริการในวันหยุด ขณะที่ธนาคารพาณิชย์เตรียมสำรองเงินสดพร้อมให้ประชาชนเบิกใช้ช่วงวันหยุดสงกรานต์ผ่านเครื่องเอทีเอ็ม-สาขาไมโครแล้ว
รายงานขาวจากธนาตารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แจ้งถึงกรณีที่จะสถาบันการเงินจะนำธนบัตรแบบใหม่ (แบบ 17) ชนิดราคา 20 บาท 50 บาท และ 100 บาท ออกใช้ในวันจักรี วันที่ 6 เม.ย. 2561 เป็นต้นไป แต่เนื่องจากในวันดังกล่าวเป็นวันหยุดราชการ ประชาชนสามารถเบิกถอนได้ ณ สาขาของสถาบันการเงินที่เปิดให้บริการในวันหยุด หรือที่ตู้เอทีเอ็ม อย่างไรก็ตาม ธนบัตรแบบใหม่นี้ เป็นธนบัตรที่จะใช้หมุนเวียนทั่วไป ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยจะทยอยนำออกใช้หมุนเวียนในระบบอย่างต่อเนื่อง เพียงพอต่อไป
ธปท.-แบงก์สำรองเงินรับสงกรานต์
นายวรพร ตั้งสง่าศักดิ์ศรี ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายออกบัตรธนาคาร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ช่วงกลางเดือนเมษายน 2561 เป็นช่วงที่มีเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งความต้องการใช้ธนบัตรของประชาชนอยู่ในเกณฑ์สูงกว่าปกตินั้น ธปท. ประมาณการว่า สถาบันการเงินจะมีการเบิกจ่ายธนบัตรจาก ธปท. ในช่วงหนึ่งสัปดาห์ก่อนเทศกาลสงกรานต์ เป็นมูลค่าสุทธิประมาณ 25,000 ล้านบาท ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ทั้งนี้ ธปท. ได้เตรียมสำรองธนบัตรชนิดราคาต่าง ๆ เพื่อรองรับความต้องการไว้อย่างเพียงพอ
รายงานข่าวจากธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ที่สาขาหลักธนาคารปิดให้บริการระหว่างวันที่ 13-16 เมษายน พ.ศ. 2561 นั้น ทางธนาคารได้มีการสำรองเงินสดไว้ให้บริการแก่ลูกค้าเพิ่มเติมจากภาวะปกติโดยรวมทั้งสิ้นประมาณ 36,000 ล้านบาท ผ่านช่องทางบริการเอทีเอ็มที่มี 9,500 กว่าจุดทั่วประเทศ นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถใช้บริการของทางธนาคารผ่านสาขาไมโครกว่า 330 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งเปิดให้บริการปกติในช่วงดังกล่าว ทั้งนี้ ธนาคารจะเปิดทำการปกติตั้งแต่วันจันทร์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2561 เป็นต้นไป
โดยธนาคารได้ยกเว้นค่าธรรมเนียมเอทีเอ็มถอนเงินข้ามเขตและโอนเงินข้ามเขตจากบัญชีภายในธนาคาร และโอนเงินไปยังบัญชีต่างธนาคาร ตั้งแต่วันที่ 1 ถึง 30 เมษายน พ.ศ. 2561 เพื่ออำนวยความสะดวกและมอบเป็นของขวัญให้กับลูกค้าผู้ถือบัตรธนาคารกรุงเทพ ที่ทำธุรกรรมผ่านตู้บัวหลวงเอทีเอ็มในช่วงเทศกาลปีใหม่ไทย นอกจากนี้ ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมทางการเงินผ่านช่องทางดิจิทัลได้ฟรีโดยไม่เสียค่าธรรมเนียม ทั้งช่องทางบริการผ่านโทรศัพท์มือถือ บัวหลวง เอ็มแบงกิ้ง และช่องทางบริการทางอินเทอร์เน็ต บัวหลวง ไอแบงกิ้ง ทั้งธุรกรรมโอนเงินข้ามเขต โอนเงินต่างธนาคารแบบทันที โอนเงินพร้อมเพย์ การชำระบิลค่าสินค้าและบริการ และบริการเติมเงิน โดยลูกค้าจะได้รับความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยในการทำธุรกรรมทางการเงิน
ธนาคารกรุงไทย สำรองเงินสดช่วงเทศกาลวันหยุดสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 12-16 เมษายน 2561 รวมจำนวนเงินทั้งสิ้น 26,460 ล้านบาท แบ่งเป็นในเขตกรุงเทพฯ 7,230 ล้านบาท และในต่างจังหวัด 19,230 ล้านบาท ปัจจุบัน ธนาคารมีสาขาทั้งสิ้น 1,119 สาขา และมีเครื่องเอทีเอ็มรวม 8,693 เครื่อง
ธนาคารไทยพาณิชย์ สำรองเงินสดสำหรับสาขาและเครื่องเอทีเอ็มทั่วประเทศเพื่อรองรับการใช้บริการของลูกค้าในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ 13-16 เมษายน 2561 เป็นจำนวนเงิน 36,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นในเขตกรุงเทพมหานคร 18,000 ล้านบาท และในเขตต่างจังหวัด 18,000 ล้านบาท เท่ากับปีที่แล้ว เนื่องจากยังคงคาดการณ์ปริมาณความต้องการการใช้เงินสดของลูกค้าอยู่ในระดับเดิม
ปัจจุบัน ธนาคารฯ มีสาขาทั้งสิ้น 1,181 สาขา และมีเครื่องเอทีเอ็มรวม 9,635 เครื่อง
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) (กรุงศรี) เตรียมสำรองเงินสดสำหรับให้บริการที่สาขาของธนาคาร และเครื่องกรุงศรี เอทีเอ็ม เพื่ออำนวยความสะดวกและรองรับการเบิกถอนเงินสดของลูกค้าและประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2561 ระหว่างวันที่ 8-16 เมษายน 2561 รวมกว่า 21,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% จากยอดเงินสดที่ลูกค้าใช้จริงช่วงสงกรานต์ปี 2560 โดยแบ่งเป็นเงินสดสำรองสำหรับบริการผ่านเครื่องกรุงศรี เอทีเอ็ม จำนวน 16,000 ล้านบาท และช่องทางสาขาของธนาคารจำนวนอีกกว่า 5,000 ล้านบาท โดยปัจจุบัน ธนาคารมีสาขา จำนวน 665 สาขา และเครื่องกรุงศรี เอทีเอ็ม จำนวน 6,576 เครื่องทั่วประเทศ
รายงานข่าวจากธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย แจ้งว่า เตรียมสำรองเงินสดช่วงวันหยุดสงกรานต์ ปี 2560 รวมจำนวนเงินทั้งสิ้น 500 ล้านบาท แบ่งเป็นการสำรองผ่านตู้เอทีเอ็ม ในสาขาทั้งสิ้น 88 สาขา จำนวนเงิน 300 ล้านบาท และสำรองผ่านตู้เอทีเอ็ม นอกสถานที่ จำนวน 59 ตู้ จำนวนเงิน 200 ล้านบาท
ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (LH Bank) สำรองเงินสดช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 12-16 เมษายน 2561 ผ่านเครื่อง LH Bank ATM จำนวน 204 เครื่องทั่วประเทศ เป็นจำนวนเงินรวม 200 ล้านบาท เท่ากับปีที่แล้ว