ทายาท รุ่นที่ 2 “ศรีนครชัย อินเตอร์เทรดดิ้ง” ปั้นตลาดเครื่องมือช่าง เปิดตัวแพลตฟอร์ม “S connect” ช่วยร้านค้าโชว์ห่วยเครื่องมือช่าง เพิ่มโอกาสทางยอดขาย ลดต้นทุนการสต๊อกสินค้า-ค่าใช้จ่าย รับตลาดช่างยุค 4.0 เล็งขนเครื่องมือช่างกว่า 200,000 รายการ ลง Catalog Online ในปีนี้ ตั้งเป้าสินค้าเพิ่มเป็น 1,000,000 SKU ภายในสิ้นปีหน้า พร้อมผนึก SCG logistic ช่วยจัดส่งสินค้า วางเป้า 3 ปี รายได้แตะ 1,500 ล้านบาท จากปี 60 รายได้ 400 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าจดทะเบียนตลาด mai ใน 3 ปี ก่อนบุกตลาดเพื่อนบ้าน-AEC
นางสาวพัสชนันท์ คงวณิชกิจเจริญ ประธานกรรมการ บริษัท ศรีนครชัยอินเตอร์เทรดดิ้ง จำกัด ผู้นำตลาด และศูนย์รวมเครื่องมือช่าง และศูนย์บริการสำหรับช่าง กล่าวว่า กว่า 44 ปี ที่บริษัทฯ เติบโตในกลุ่มธุรกิจเครื่องมือช่าง เริ่มจากคุณพ่อเป็นเด็กยกของในร้านขายเครื่องเหล็กในคลองถม แล้วเติบโตมาเป็นเซลส์ขายเครื่องเหล็กจนกระทั่งเริ่มก่อร่างสร้างตัวขึ้นมาจากการที่เห็นโอกาส จึงมาเป็นร้านศรีนครชัย และด้วยวิกฤตที่รุ่นคุณพ่อ คุณแม่ เริ่มอายุมาก จึงเป็นจุดเปลี่ยนที่ต้องมีทีมบริหารมาเป็นรุ่นที่ 2 จนถึงปัจจุบัน
ทั้งนี้ 44 ปีที่ผ่านมา จากการเป็นผู้บุกเบิกร้านโชว์ห่วยเครื่องมือช่าง บริษัทฯ มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากรายได้หลักสิบล้านบาท ขยับเพิ่มขึ้นมาเป็นหลักร้อยล้านบาท จากความแข็งแกร่งของบริษัทที่มีคู่ค้าที่ไว้วางใจบริษัท และสนับสนุนกันด้วยดีมาโดยตลอด ศรีนครชัยฯ จึงมุ่งสร้างความแข็งแกร่งให้ร้านค้า และคู่ค้า ด้วยการเติบโตทางธุรกิจไปพร้อม ๆ กัน ภายใต้ปรัชญา “เราเป็นเพื่อนกัน” และเน้นความสัมพันธ์ระยะยาว สำคัญ คือ เราจะโตไปด้วยกัน
ปัจจุบัน บริษัทฯ เป็นผู้นำในเรื่องของระบบจัดการร้านค้าเครื่องมือช่างแบบ real-time ทำให้มั่นใจได้ว่าสินค้าทุกชิ้นจะถูกจัดส่งได้อย่างถูกต้องแม่นยำ ถึงมือลูกค้าได้ตรงเวลาด้วยการเพิ่มช่องทางการรับชำระเงินที่ทันสมัย พร้อมเพิ่มโอกาสในการขาย และเพิ่มช่องทางที่จะเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้นในแบบ OMNICHANEL ทั้งเว็บไซต์ และแอปพลิเคชัน เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในยุค 4.0 รวมถึงเครือข่ายร้านค้าเครื่องมือช่างทั่วประเทศและช่างฝีมือไทยทั่วประเทศ และพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้ช่างไทยสามารถพัฒนายกระดับความสามารถ และคุณภาพชีวิตเพื่อก้าวไกลสู่สากลได้อย่างยั่งยืน
นางสาวพัสชนันท์ กล่าวต่อว่า ปัจจุบัน รูปแบบร้านโชว์ห่วยเครื่องมือช่าง ประกอบด้วย 3 รูปแบบหลัก ๆ คือ 1. ร้านค้าที่ปรับปรุง พัฒนาร้านเป็นแบบ convenience store จัดร้านสวยงามขึ้น อยู่ตามหัวเมืองใหญ่ ๆ ทั่วประเทศ 2. เป็นแบบโชว์ห่วยดั้งเดิม ซึ่งภายในร้านยังวางของโชว์แบบเดิม ๆ มีกระจายทุกตำบล และ 3. ร้านขายส่ง ที่ไม่มีหน้าร้าน ซึ่งกระจายตัวอยู่ทั่วประเทศ สำหรับจุดเด่นที่ร้านโชว์ห่วยเครื่งอมือช่าง ยังคงสามารถแข่งขันกับ online และ ร้าน moderntrade ใหญ่ ๆ ในตลาดได้ คือ สายสัมพันธ์กับลูกค้า และความรู้ความเข้าใจในตัวสินค้า ซึ่งค่อนข้างใช้ความเป็น specialist ในด้านต่าง ๆ
“ศรีนครชัยฯ ได้ทำการพัฒนาแพลตฟอร์มใหม่ รองรับตลาดเครื่องมือช่างยุค 4.0 เพื่อช่วยเหลือร้านโชว์ห่วยเครื่องมือช่างต่าง ๆ โดยการจัดทำ Catalog online ที่มีข้อมูลครบถ้วนสำหรับการขาย มากกว่า 20,000 รายการในช่วงเริ่มต้น ภายในสิ้นปีนี้ จะมีสินค้าเข้ามาแสดงมากกว่า 200,000 รายการ และสิ้นปีนี้ คาดว่าจะมีถึง 1,000,000 SKU ทำให้ง่าย และสะดวกมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องอยู่หน้าร้านนาน ๆ เหมือนก่อน ทั้งยังจัดหน้าร้านก็ยากขึ้น เพราะสินค้าเครื่องมือเป็น Specialist Market ไม่ใช่มาถึงจะขายได้แบบขนมจีบ ซาลาเปา ระบบนี้จะเก็บข้อมูล Stock online ว่า สินค้าพร้อมขาย พร้อมจัดส่งได้เมื่อไหร่ ทำให้ลูกค้าไม่จำเป็นต้อง Stock สินค้าเหมือนในอดีตอีกต่อไป เพียง Stock แค่สินค้าขายได้ และสินค้าที่ลูกค้ารอไม่ได้ ส่วนสินค้าที่ไม่ต้องรีบสามารถสั่ง Online ซึ่งทางเราได้ร่วมมือกับ SCG Logistic สามารถจัดส่งให้ถึงมือ ผู้ใช้ได้ตามกำหนดเวลาในเว็บไซต์ได้เลย”
นางสาวพัสชนันท์ กล่าวว่า สำหรับตลาดเครื่องมือช่าง มีมูลค่ารวมประมาณ 1 แสนล้านบาท สามารถแบ่งเป็นหมวดหมู่ได้ประมาณ 21 หมวด ได้แก่ เครื่องมือช่างรถยนต์, มอเตอร์ไซต์, งานจักรยาน, งานรถสิบล้อ, งานอู่ต่อเรือ, งานช่างเครื่องบิน, งานโรงงานอุตสาหรรม, งานไม้, งานเหล็ก/โลหะ, งานปูน, สุขภัณฑ์, งานสแตนเลส, งานพลาสติก, งานสี, ช่างแอร์, งานไฟฟ้า/อิเล็กทรอนิกส์, งานสวน, งานประปา, งานก่อสร้าง, งานดับเพลิง, งานเอนกประสงค์ และโดยกลุ่มเครื่องมือช่าง ที่มีส่วนแบ่งการตลาดมากเป็นอันดับ 1 คือ กลุ่มเครื่องมือช่างก่อสร้าง ซึ่งกินแชร์ประมาณ 40% รองลง คือ กลุ่มเครื่องมือช่างโรงงาน มีแชร์อยู่ 20% ส่วนที่เหลือกระจายไปตามกลุ่มเครื่องมือช่างชนิดต่าง ๆ
“จุดเด่นอีกข้อของแพลตฟอร์มใหม่ คือ ภายในปีหน้า เราสามารถให้ทุกร้านค้า Upload Stock ของร้านค้าขึ้นระบบได้ จะทำให้เราหาสินค้าที่หายากได้ง่ายขึ้น เพราะแต่ละร้านมีความถนัดไม่เหมือนกัน แล้วเราก็บริหารการขนส่งได้ดีขึ้น เพราะระบบจะนำสินค้าจากร้านที่ใกล้ที่สุดไปส่งให้ ไม่จำเป็นต้องมาจากโกดังของศรีนครชัยฯ อย่างเดียวอีกต่อไป เป็นการสร้างเครือข่ายร้านค้าให้ช่วยเหลือกันอย่างแท้จริง และยังมีอีกหลากหลายบริการที่จะทยอยขึ้นระบบ เพื่อสนับสนุนร้านค้าต่าง ๆ ให้บริการผู้ใช้ได้ดียิ่งขึ้น เช่น ระบบเช่า/ซื้อ ระบบประกันอุบัติเหตุ เป็นต้น” นางสาวพัสชนันท์ กล่าว และกล่าวสรุปต่อไปว่า“
ทั้งนี้ บริษัทเชื่อว่า ตลาดเครื่องมือช่างเป็นตลาดที่ใหญ่และเติบโตอย่างต่อเนื่องมาตลอด แต่สถานการณ์ของผู้จำหน่าย กลับไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาด เนื่องจากยอดขายเรียกได้ว่าทรงตัวมาเป็นนานกว่า 3 ปีแล้ว ขณะที่กลุ่มคู่ค้าของในวงการโดยรอบก็ดูเหมือนจะอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน โดยในปีที่ผ่านมา นครชัยศรีฯ มียอดขายประมาณ 400 ล้านบาท ส่วนในปีนี้ บริษัทตั้งเป้าว่าจะสร้างยอดขายได้ถึง 700 ล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 30% หลังจากที่ได้มีการปรับตัว นำสินค้าเข้าสู่แพลตฟอร์ม ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการขายมากขึ้นถึง 30% เพราะช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงข้อมูลสินค้าที่มากขึ้นกว่าเดิมกว่า 10 เท่า เป็นการเพิ่มโอกาสให้กับลูกค้าของบริษัทได้ง่ายขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าว่า จากนี้ไปอีก 3 ปี จะมียอดขายเติบโตแบบก้าวกระโดเป็น 1,500 ล้านบาทต่อปี ซึ่งจะเป็นช่วงเดียวกับการยื่นไฟลิ่งจดทะเบียนในตลาด mai เพื่อระดมทุนมาพัฒนาแพลตฟอร์ม ขยายโกดังสินค้า และลงทุนในการพัฒนาบุคคลากรของบริษัท ซึ่งในระยะ 2 ปีจากนี้ บริษัทต้องเดินหน้าปรับโครงสร้างบริษัท และบริษัทลูก ทั้งในด้านการบริหารงาน การบริหารจัดการ และทางการปรับระบบบัญชี เพื่อให้เข้ามาตรฐานตามเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ mai กำหนด
“นอกจากการปรับโครงสร้างแล้ว บริษัทยังมีการเตรียมความพร้อมด้านอนาคตสำหรับบุคลากรที่อยู่กับบริษัทมานาน และต้องการกลับภูมิลำเนา แต่ไม่มีงานรองรับ โดยการเปิดแฟรนไชนส์ ให้กับพนักงานที่ทำงานกับบริษัท และยังมีแผนจะขยายตลาดไปยังประเทศเพื่อนบ้านโดยเฉพาะกลุ่มประเทศอาเซียน โดยประเทศแรก ๆ ที่คาดว่าจะมีการขยายตลาดเข้าไป คือ ลาว พม่า และอินโดนีเซีย”