xs
xsm
sm
md
lg

“อัลติจูด” กางแผน 3 ปี ผุดโครงการใหม่ 7,000 ล. ปี 61 เปิด 4 โครงการ 2,000 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ชยพล หรรรุ่งโรจน์
“อัลติจูด” เผยแผนธุรกิจ 3 ปี เดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่มูลค่ารวม 7,000 ล้านบาท ชูกลยุทธ์หาช่องว่างของตลาด ผุดโครงการในทำเลและรูปแบบที่ยังมี Demand แรง แต่ Supply น้อย มุ่งเจาะตลาด Young Success แจงปี 61 เตรียมเปิดตัว 4 โครงการใหม่ ภายใต้ 4 แบรนด์หลัก มูลค่ารวม 2,000 ล้านบาท วางเป้าปี 61 ยอดขาย 2,000 ล้านบาท รับรู้รายได้ 1,200 ล้านบาท

นายชยพล หรรรุ่งโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อัลติจูด ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า แผนธุรกิจของบริษัทในช่วง3ปีจากนี้ จะเน้นการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์แนวสูงความคู่ไปกับโครงการแนวราบ โดยตั้งเป้าจะเปิดตัวโครงการใหม่มูลค่ากว่า 7,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้บริษัทมีรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยกลยุทธ์สำคัญของบริษัท คือ พัฒนาที่อยู่อาศัยกลางเมืองทั้งแนวราบ และแนวสูง บนขนาดที่ดินไม่ใหญ่มาก เนื่องจากที่ดินในเมืองมีจำกัด และหายาก ในทางกลับกัน ที่ดินในทำเลดังกล่าวก็เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคจำนวนมาก ซึ่งอัลติจูด จะเข้ามาจับตลาดกลุ่มดังกล่าว

เนื่องจากเป็นตลาดที่มีดีมานด์มาก แต่กลับมีซัปพลายน้อย ซึ่งเป็นช่องว่างทางการตลาดที่บริษัทให้ความสำคัญ และเป็นกลยุทธ์หลักในการดำเนินธุรกิจ โดยบริษัทจะมุ่งพัฒนาโครงการที่เป็น Niche Luxury เพื่อเจาะกลุ่มผู้ที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย หรือ Young Success ที่ต้องการอยู่อาศัยในเมือง เพราะเดินทางสะดวก มีไลฟ์สไตล์ในแบบที่ต้องการ และยังสะท้อนภาพลักษณ์ของผู้ครอบครองได้เป็นอย่างดี

“ด้วยกลยุทธ์นี้เรามั่นใจว่าจะผลักดันให้อัลติจูด ขึ้นแท่นเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ระดับ Top 3 ในเซกเมนต์ สำหรับบ้านลักชัวรี ราคา 20 ล้านบาท และโฮมออฟฟิศ ราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป ภายใน 3 ปี ที่ผ่านมา เราเปิดขายโครงการแล้วทั้งสิ้น 5 โครงการ คือ บ้านเดี่ยว 1 โครงการ ได้แก่ อัลติจูด มาสเตอรี่, โฮมออฟฟิศ 1 โครงการ คือ โครงการอัลติจูด พรูฟ เกษตร-นวมินทร์ ส่วนคอนโดมิเนียมมีอีก 3 โครงการ คือ อัลติจูด ดีไฟน์, อัลติจูด สามย่าน-สีลม และโครงการ โอกาส ซึ่งทุกโครงการ ล้วนได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างดีมาก”

นายชยพล กล่าวว่า สำหรับปี 61 บริษัทมีแผนจะเปิดตัว 4 โครงการใหม่ มูลค่า 2,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นแนวราบ 2 โครงการ ได้แก่ โครงการบ้านเดี่ยว แบรนด์ อัลติจูด มาสเตอรี่ โครงการอัลติจูด พรูฟ พระราม 9 โฮมออฟฟิศจำนวน 16 ยูนิต บนพื้นที่ 2 ไร่ ราคาเริ่มต้น 15 ล้านบาท และคอนโดมิเนียมอีก 2 โครงการ ในโดยอยู่ย่านถนนเจริญกรุง 1 โครงการ และอีก 1 โครงการ เป็นแบรนด์ใหม่ชื่อ อาสะ (ASA) อยู่ที่โรจนะ จังหวัดอยุธยา ติดกับโลตัส โรจนะ

ในปีนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าว่าจะมียอดขาย 2,000 ล้านบาท และมีรายได้ 1,200 ล้านบาท ซึ่งมาจากการโอนโครงการที่เปิดขายเมื่อปีที่แล้ว คือ โครงการอัลติจูด มาสเตอรี่, อัลติจูด พรูฟ เกษตร-นวมินทร์ และคอนโดอีก 2 โครงการ การวางแผนขึ้นสู่การเป็น Top 3 ในเซกเมนต์สำหรับบ้านลักชัวรีราคา 20 ล้านบาท และโฮมออฟฟิศ ราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป
ขวัญชัย ยิ่งเจริญถาวรชัย
นายขวัญชัย ยิ่งเจริญถาวรชัย กรรมการบริหาร กล่าวว่า นอกจากการเปิดตัวโครงการใหม่ตามเป้าระยะ 3 ปีแล้ว บริษัทยังเดินหน้าสร้างแบรนด์ และการทำงานด้านการตลาด เพื่อส่งเสริมให้แบรนด์ “อัลติจูด” และแบรนด์สินค้าทั้ง 4 แบรนด์ ให้เป็นที่จดจำในกลุ่มลูกค้า โดยบริษัทได้วาง Brand Segmentation ผ่านชื่อโครงการ ได้แก่ 1) แบรนด์อัลติจูด มาสเตอรี่ (Mastery) ซึ่งเป็นแบรนด์สำหรับบ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี ราคาประมาณ 20-45 ล้านบาท 2) แบรนด์อัลติจูด พรูฟ (Prove) เป็นแบรนด์สำหรับโฮมออฟฟิศ ราคาประมาณ 10 ล้านบาทขึ้นไป และ 3) คอนโดมิเนียมแบรนด์อัลติจูด ซึ่งจะเป็นแบรนด์สำหรับคอนโดลักชัวรีกลางเมือง และ 4) คอนโดมิเนียมแบรนด์ อาสะ (ASA) ซึ่งจะเป็นสินค้าเดียวที่อัลติจูด พัฒนาขึ้นมา โดยเป็น Effortable Condo โดยโครงการแรกที่กำลังจะเปิดตัว คือ โครงการอาสะ อยุธยา-โรจนะ การวางแบรนด์สินค้าที่ชัดเจน จะสร้างการจดจำที่ง่ายขึ้น ทำให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้าของบริษัทได้ง่ายขึ้น

“ในปี 61 เราเน้นการสร้างแบรนด์ผ่านโลกดิจิทัล และบุกทุกสื่อ เพื่อสร้างการรับรู้ให้รู้จักแบรนด์อัลติจูด ให้มากที่สุด ทั้ง Below the line และ Above the line เพื่อทำการตลาดและสร้างแบรนด์บริษัท และแบรนด์สินค้าควบคู่กัน ”


กำลังโหลดความคิดเห็น