ตลาดแกว่งซึมตัวจากหุ้นใหญ่พักฐาน เผชิญแรงกดดันหลักจากปัจจัยนอกประเทศ

หุ้นปิดครึ่งวันเช้าลบ 2.72 จุด ตลาดแกว่งซึมตัวจากหุ้นใหญ่พักฐาน เผชิญแรงกดดันหลักจากปัจจัยนอกประเทศ ทั้งการเมืองในสหรัฐฯ สงครามการค้า และผลการประชุมเฟด

น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล. ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวซึม ๆ ดัชนีอ่อนตัวเล็กน้อย โดยหุ้นขนาดใหญ่พักฐานบ้าง ซึ่งปัจจัยที่สร้างความกังวลให้นักลงทุนมาจากภายนอกประเทศเป็นหลัก โดยเฉพาะปัจจัยที่มาจากสหรัฐฯ ในเรื่องที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ สั่งปลดรัฐมนตรีต่างประเทศ, ที่ปรึกษาความมั่นคง และมีข่าวลือว่าจะปลดที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ อีกคนหนึ่งด้วย

นอกจากนี้ ยังมีความวิตกเกี่ยวกับสงครามการค้าด้วยหลังสหรัฐฯ จะเก็บภาษีนำเข้าสินค้า ซึ่งกดดันจีนมาก แต่ก็ไม่รู้ว่าจีนจะตอบโต้อะไรหรือไม่ อีกทั้งในวันที่ 20-21 มี.ค. จะมีการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ตลาดฯ คาดไว้อยู่แล้วว่า เฟดจะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% แต่ต่างก็รอดูถ้อยแถลงจากเฟดในเรื่องทิศทางอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ จะเป็นอย่างไรบ้างในช่วงที่เหลือของปีนี้ ดังนั้น จึงทำให้ตลาดฯมีความผันผวน

ส่วนปัจจัยในประเทศก็มีประเด็นการเมืองเล็กน้อย แต่คงจะไม่มีผลต่อการเลือกตั้ง ทั้งนี้ ก็เข้าใกล้ปลายไตรมาส 1/61 ซึ่งอาจจะมีการทำ Window Dressing ของนักลงทุนสถาบันในช่วงปลายไตรมาสได้ ดังนั้นเชี่นนี้แม้ตลาดฯ จะผันผวน แต่ก็ไม่ร่วงแรง

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบเล็กน้อย โดยต่างรอดูการประชุมเฟดที่กำลังจะเกิดขึ้น

ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดตลาดครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,809.04 จุด ลดลง 2.72 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.15% มูลค่าการซื้อขาย 25,788.66 ล้านบาท

สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ น.ส.อาภาภรณ์ กล่าวว่า ตลาดฯ คงจะเคลื่อนไหวไม่แตกต่างจากช่วงเช้า ซึ่งตลาดฯ อยู่ในช่วง Wait & See รอดูการประชุมเฟด พร้อมให้แนวรับ 1,800 จุด ซึ่งเป็นแนวฟิวเตอร์ด้วย หากหลุดก็จะมีแนวรับถัดไปที่ 1,770 และ 1,765-1,750 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,820-1,830 จุด