บล. โกลเบล็ก มองหุ้นไทยได้รับปัจจัยบวกทั้งในประเทศ และต่างประเทศ สหรัฐฯ ยกเว้นเก็บภาษีนำเข้าเหล็ก และอลูมิเนียม จากแคนาดา และเม็กซิโก และส่งสัญญาณยกเว้นภาษีให้กับประเทศอื่น ๆ บวกราคาน้ำมันทรงตัวที่ระดับสูง และการเมืองในประเทศมีลุ้นเลือกตั้งเดินหน้าตามแผน หลัง สนช. ผ่านกฎหมายลูก 2 ฉบับ คาด SET แกว่งตัวในกรอบ 1,755-1,820 จุด ด้านราคาทองคำ แนะนักลงทุนให้รอจังหวะ follow short เมื่อราคาหลุดระดับ 1,300 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ trading long เมื่อราคาอยู่เหนือระดับ 1,325 ดอลลาร์สหรัฐฯ
น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS กล่าวว่าตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ได้รับปัจจัยบวกจากโอกาสเกิดสงครามการค้าลดลงหลังสหรัฐฯ ระบุว่า จะยกเว้นการเก็บภาษีนำเข้าเหล็ก และอลูมิเนียม จากแคนาดา และเม็กซิโก ซึ่งเป็นประเทศคู่ค้าในข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) และยังส่งสัญญาณยกเว้นภาษีให้กับประเทศอื่น ๆ ด้วย ล่าสุด สหรัฐฯ อยู่ระหว่างเจรจากับอียู และญี่ปุ่น หากสามารถตกลงกันได้ จะช่วยลดความร้อนแรงของกระแสการเกิดสงครามการค้า รวมถึงราคาน้ำมันทรงตัวที่ระดับสูงส่งผลบวกเชิงจิตวิทยาต่อราคาหุ้นกลุ่มพลังงาน และการเมืองในประเทศมีความชัดเจนมากขึ้น หลังจากสัปดาห์ก่อนหน้านี้ที่ประชุม สนช. มีมติผ่านกฎหมายลูก 2 ฉบับได้แก่ ร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.)
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยกดดันจาก fund flow ผันผวน ในช่วง 1 เดือนย้อนหลัง นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2.5 หมื่นล้านบาท และประธานเฟด สาขาบอสตัน สนับสนุนให้ Fed ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้ จากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ดีมาก
ทั้งนี้ ยังคงมีปัจจัยที่ต้องจับตาในระยะนี้ ได้แก่ วันที่ 13 มี.ค. สหรัฐฯ เปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือน ก.พ. และ สต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์จากการปิโตรเลียมสหรัฐ (API), 14 มี.ค. ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานการประชุม, 15 มี.ค. สหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีภาคการผลิตเดือน มี.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และในวันที่ 19 มี.ค. และ ดร.สมคิด มีแผนนำทีมเศรษฐกิจชี้แจงนโยบาย-มาตรการลงทุนหนุนสู่ไทยแลนด์ 4.0 และ EEC ให้กับนักลงทุนทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
ด้านนายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์โกลเบล็ก จำกัด กล่าวว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้มีแนวโน้มบวกต่อ คาด SET ผันผวนในกรอบ 1,755-1,820 จุด แนะนำซื้อเก็งกำไรหุ้นที่มีปัจจัยบวก ได้แก่ GFPT ได้ประโยชน์จากการที่จีนรับรองมาตรฐานโรงงานผลิตไก่ไทย TVO spread เพิ่มขึ้นจากการที่ราคากากถั่วเหลือง เพิ่มขึ้น 19.2% QTD ขณะที่ราคาเมล็ดถั่วเหลืองปรับเพิ่มขึ้นเพียง 8.7% QTD และได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทแข็ง และหุ้นปันผลเด่น (yield มากกว่า 3%) ได้แก่ ASEFA, BAFS, CPT, CRD, FTE, GLOW, KKP, NYT, PSH, PTTGC, SCB, SF, SIS, SMPC, SPRC, TK, TOP, WHAUP, TISCO, QH, PDI
ด้านแนวทางการลงทุนในทองคำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล. โกลเบล็ก กล่าวว่า กราฟราคาทองคำให้น้ำหนัก 50/50 ระหว่าง ทรงตัวเหนือ 1,300 ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยแกว่งตัวสร้างรูป descending triangle ไปอีกสักระยะ หรือกำลังกลับตัวเป็นขาลงสู่แนว 1,260 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในกรณีที่การร่วงลงในช่วงสิ้นเดือนก่อนเป็นการ breakout จริง
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน แนวรับ 1,300 ดอลลาร์สหรัฐฯ จะเป็นทั้งจุดเข้า-จุดออกที่สำคัญ จึงแนะนำนักลงทุนให้รอจังหวะ follow short เมื่อราคาหลุดระดับ 1,300 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ trading long เมื่อราคาอยู่เหนือระดับ 1,325 ดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ถ้าราคาอยู่ระหว่าง 1,300-1,325 ดอลลาร์สหรัฐฯ ควรรอดูปัจจัยบวกลบที่จะนำไปสู่การเลือกทาง เนื่องจากค่าเงินบาทลดความผันผวนลง แต่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีความไม่ชัดเจนว่าจะแข็งขึ้น หรืออ่อนลง