ปลัดคลังเผยยังต้องรอศาลปกครองสูงสุดพิจารณาแผนการระดมทุนผ่านการตั้งกองทุน TTF ตามคำร้องจากสหภาพแรงงาน กทพ. แต่เบื้องต้น ยังคงยืนยันแผนการจัดตั้งกองทุนตามที่ สคร. และผู้บริหาร กทพ. เคยมีข้อสรุปไปแล้ว เผย หาก กทพ. ต้องการเงินประเดิมการก่อสร้างเพิ่มเติมตามแผน 3 พันล้านบาทแล้ว คลังก็พร้อมจะกู้เงินให้ ขณะเดียวกัน เล็งเตรียมพิจารณาทำงบประมาณแบบสมดุลหลัง สนช. ผ่าน พ.ร.บ. วินัยการเงินการคลัง อีกทั้งเศรษฐกิจไทยก็เริ่มฟื้นตัวดีขึ้นแล้ว พร้อมผลักดันกฎหมายเพื่อขยายฐานภาษีรายการใหม่ ๆ เผย 19 ก.พ. นี้ เตรียมเสนอ “อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์” พิจารณาร่าง พ.ร.บ. ภาษีลาภลอย
นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวถึงรณีสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองสูงสุด เพื่อให้พิจารณาแผนการระดมทุนผ่านกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ (TFF) จากกระทรวงการคลังว่า ขณะนี้จึงต้องรอศาลปกครองสูงสุดพิจารณา แต่ยังยืนยันว่า ทุกอย่างยังจะเป็นไปตามแผนกำหนดการเดิมที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และผู้บริหาร ททท. ได้เคยมีสรุปถึงแผนการระดมทุนโดยเปิดขายหน่วยลงทุนในกองทุน TTF ของ กทพ. เพื่อนำเงินที่ได้มาใช้เป็นเงินลงทุนก่อสร้างโครงการทางด่วน 2 เส้นทางให้ได้ก่อนเดือน ก.ค. นี้
แต่อย่างไรก็ตาม หาก กทพ. ต้องการใช้เงินระยะสั้น 3,000 ล้านบาท เพื่อเริ่มต้นก่อสร้างโครงการก่อน กระทรวงคลังก็พร้อมหาแหล่งเงินกู้ให้ เนื่องจากต้องเริ่มต้นศึกษาก่อสร้างโครงการ 2 เส้น คือ ทางด่วนพระราม 3-ดาวคะนอง กับทางด่วนขั้นที่ 3 ซึ่งเป็นตอหม้ออยู่กลางเกษตร-นวมินทร์ วงเงิน 40,000 ล้านบาท นับว่าในปีแรกต้องใช้เงินไม่สูงมากนัก คาดว่าเริ่มลงทุนได้ในช่วงเดือน ก.ค. หรือในช่วงกลางปีนี้เป็นต้นไป
เสนอ รมว.คลัง พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ภาษีลาภลอย ในวันพรุ่งนี้
นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง ถึง พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อรักษาวินัยทางการเงิน การคลังอย่างเคร่งครัดว่า เมื่อเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น กระทรวงคลังจึงต้องพิจารณารายได้ รายจ่ายงบประมาณ ภาระหนี้สาธารณะในระยะปานกลาง เพื่อกลับมาพิจารณาการจัดทำงบประมาณแบบสมดุล โดยก่อนเกิดวิกฤตเศรษฐกิจในปี 40 รัฐบาลได้เคยจัดทำงบประมาณแบบสมดุล แต่หลังจากนั้นมากว่า 20 ปี รัฐบาลยังไม่เคยจัดทำงบประมาณสมดุล เนื่องจากต้องใช้เงินดูแลฟื้นฟูเศรษฐกิจ แต่ในขณะนี้อันดับความน่าเชื่อถือ (เรตติ้ง) ของประเทศ ความมีเสถียรภาพทางการเงินของไทยยังมีสูงมาก นักลงทุนต่างชาติจึงเกิดความมั่นใจเข้ามาลงทุน จึงเป็นจังหวะให้กระทรวงการคลังจะเตรียมการพิจารณาถึงแนวทางการจัดทำงบประมาณแบบสมดุลได้ในระยะปานกลาง
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะผลักดันผ่านแนวทางการขยายฐานภาษี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรูปแบบใหม่ โดยไม่ต้องมีการปรับอัตราภาษีเพิ่มขึ้น โดยในวันที่ 19 ก.พ. นี้ กระทรวงการคลังได้เตรียมเสนอร่างกฎหมายจัดเก็บภาษีลาภลอยที่เก็บส่วนต่างของมูลค่าที่ดิน หรือโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ซึ่งอยู่ตามแนวโครงการทางด่วน และแนวรถไฟฟ้า เพื่อให้รัฐมนตรีคลังพิจารณา รวมทั้งจะมีการเดินหน้าเสนอร่างกฎหมายจัดเก็บภาษี E-Commerce เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับการเสียภาษีของร้านค้าทั่วไปกับร้านค้าสินค้าออนไลน์ และยังจะเดินหน้าออกฎหมาย E-Business เพิ่มเติมอีกด้วย
ขณะที่กรมสรรพสามิตเตรียมเสนอจัดเก็บภาษีทำลายสุขภาพ ภาษีทำลายสิ่งแวดล้อม และต้องการย้ำกับร้านค้าประชารัฐ ร้านธงฟ้า เพื่อร่วมติดตั้งเครื่องรูดบัตร EDC ซึ่งขณะนี้เริ่มมียอดขายเพิ่มสูงขึ้นจากการซื้อสินค้าของผู้มีบัตรสวัสดิการ โดยประเมินว่าแต่ละร้านจะมียอดขายเป็นเงินสูงกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี และอาจจะทำให้เกิดความยุ่งยากในการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม กระทรวงคลังจึงต้องทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการร้านค้าว่า ไม่ต้องกลัวเรื่องการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม เนื่องจากสรรพากรไม่ได้ตรวจสอบอย่างเข้มงวดเหมือนช่วงที่ผ่านมา รวมทั้งมาตรการจัดตั้งเมืองการค้าชายแดน (Border Trade City) นำร่อง อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อส่งเสริมการค้าชายแดนเพิ่มขึ้น ซึ่งการขยายฐานภาษีเหล่านี้คาดว่าจะทำให้รายได้สมดุลกับรายจ่ายมากขึ้นในอนาคต