ดัชนี SET เปิดเช้านี้ร่วงหนักกว่า 40 จุด หรือกว่า 2% ตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ หลังดาวโจนส์ดิ่งหนักสุดเป็นประวัติการณ์ กังวลเฟดปรับขึ้น ดบ. เป็น 4 ครั้งในปีนี้ คาดเป็นการ Panic เข้ามาที่หุ้นขนาดใหญ่ที่ต่างชาติมักจะเข้ามาถือ
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (6 ก.พ.) ดัชนีเปิดตลาดภาคเช้าร่วงหนักลงทันที หลุดระดับ 1800 จุด โดยเมื่อเวลา 10.09 น. ดัชนีปรับลงไปที่ระดับ 1,774.02 จุด ลดลง 36.30 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -2.01% มูลค่าการซื้อขาย 7,300.05 ล้านบาท
ทั้งนี้ เป็นไปตามทิศทางตลาดหุ้นเอเชียที่เปิดปรับลงหนักตามดัชนีดาวโจนส์ ที่ร่วงลงหนักสุดเป็นประวัติการณ์ กังวลว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจเพิ่มความถี่ของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้เป็น 4 ครั้ง จากเดิมคาด 3 ครั้ง ซึ่งจะกระทบต่อต้นทุนและกำไรของภาคธุรกิจ
ล่าสุด เมื่อเวลา 10.15 น. ดัชนีหุ้นไทยปรับลงไปที่ระดับ 1,768.49 ลดลง 41.83 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -2.31% มูลค่าการซื้อขาย 22,563.43 ล้านบาท
นายธีรวุฒิ กานต์นิภากุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ (6 ก.พ.) เปิดมาร่วงไปกว่า 2% เป็นไปตามคาด ซึ่งยังมองว่า ตลาดบ้านเราไม่น่าจะลงไปแรงเหมือนตลาดหุ้นเอเชีย เนื่องจากที่ผ่านมา ตลาดบ้านเราขึ้นมาด้วยเงินของ Local Fund เป็นหลัก ทำให้แรงขายจากปัจจัยต่างประเทศไม่น่าจะมีออกมามากนัก
อย่างไรก็ตาม เช้านี้มองเป็นการ Panic เข้ามาที่หุ้นขนาดใหญ่ที่ต่างชาติมักจะเข้ามาถือ ซึ่งก็ยังคิดว่า พรุ่งนี้ (7 ก.พ.) ตลาดฯ อาจจะปรับตัวลงอีกวันแล้วก็น่าจะฟื้นตัวขึ้นได้ เนื่องจากบ้านเรายังดีอยู่ ผลประกอบการของบริษัทฯ โดยรวมยังดีอยู่
พร้อมมองว่า ในระหว่างทางตลาดฯ อาจมีดีดกลับได้บ้าง เพราะการ Panic ครั้งนี้เป็นผลจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ฟื้นตัวแรง ทำให้เกิดความกังวลว่า สหรัฐฯ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้