xs
xsm
sm
md
lg

โบรกฯ ชี้ปัจจัยบวกในประเทศ ช่วยหนุนแนวโน้มหุ้นไทยขึ้นต่อ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด ชี้คาดการณ์ปรับดอกเบี้ยขึ้นของธนาคารกลางสหรัฐฯ ชะลอออกไป เป็นผลดีต่อตลาดหุ้นเอเชีย รวมทั้งไทย ทิศทางโดยรวมยังเป็นบวกตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ล่าสุดอ่อนตัวลง และสภาพัฒน์ฯ กำลังปรับประมาณ GDP ขึ้นเป็นโต 3.5-3.8% หนุนตลาดหุ้นไทยไปต่อได้สัปดาห์นี้ แต่ยังจะถูกกดดันจากการที่วุฒิสภาสหรัฐฯ เลื่อนการลงมติร่างกฎหมายสาธารณสุขที่จะมาแทน Obamacare ออกไป

นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด กล่าวว่า สัปดาห์นี้คาดว่า ตลาดหุ้นน่าจะปรับขึ้นได้ จากตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ออกมาอ่อน ทำให้การคาดการณ์ปรับดอกเบี้ยขึ้นของธนาคารกลางสหรัฐฯ ชะลอออกไป ซึ่งเป็นผลดีต่อตลาดหุ้นเอเชีย รวมทั้งไทย ทิศทางโดยรวมยังเป็นบวก โดยเฉพาะการคาดการณ์การประกาศผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน ไตรมาส 2 ของไทยที่เริ่มออกมา โดยธนาคารจะออกมาก่อน และคาดว่าตัวเลขจะออกมาปานกลาง เพราะคาดว่าสินเชื่อธนาคารจะดีช่วงครึ่งปีหลัง ด้านผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนของสหรัฐฯ คาดว่าจะโต 8% ส่วนยุโรป ก็น่าจะออกมาดีเช่นกัน

"ปัจจัยในประเทศที่สำคัญ คือ การที่สภาพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ กำลังปรับประมาณการณ์ดัชนีมวลรวมการบริโภคในประเทศ หรือ GDP ขึ้นโดยจะเติบโตที่ระดับ 3.5-3.8% จากเดิมซึ่งอยู่ที่ระดับ 3.3-3.5% ซึ่งถือเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นไทย"
 
อย่างไรก็ตาม พรรครีพับบลิกันประกาศเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เลื่อนการลงมติร่างกฎหมายสาธารณสุขที่จะมาแทน Obamacare ทำให้กลับมาไม่เชื่อมั่นว่า ทรัมป์จะออกกฎหมายได้ ทั้งนี้ หากกฎหมายโหวตผ่าน ตลาดหุ้นจะปรับขึ้นแน่นอน แต่ถ้าหากกฎหมายไม่ผ่าน ตลาดหุ้นจะซึม เพราะจะทำให้การเสนอกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจของทรัมป์ ต้องล่าช้าออกไปอีก เนื่องจากเม็ดเงินที่ต้องการนำมากระตุ้นเศรษฐกิจจากการลดงบประมาณ Obamacare ไป 3.2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐจะขาดหายไป

อย่างไรก็ตาม ในวันพุธที่ 19 ก.ค. จะมีประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ซึ่งคาดว่าจะคงนโยบายการเงินทั้งหมดหลังจากคงประมาณการผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) และลดเป้าเงินเฟ้อไปเมื่อวันศุกร์ (21 ก.ค.) BOJ เป็นธนาคารกลางใหญ่แห่งเดียวที่ยังไม่ลดมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน ขณะที่ Fed ลดมาตรการผ่อนคลายทางการเงินไปแล้ว และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณจะลดมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน

ด้านสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยว่า GDP ขยายตัว 6.9% ในไตรมาส 2/2560 ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับการขยายตัวในไตรมาสแรก ทั้งนี้ GDP ไตรมาส 2/2560 ขยายตัวได้ดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 6.8% และสูงกว่าเป้าหมายของรัฐบาลที่ 6.5% ส่วนในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ GDP ขยายตัว 6.9% เช่นกัน หากเทียบเป็นรายไตรมาสพบว่า GDP ไตรมาส 2 ขยายตัว 1.7%
กำลังโหลดความคิดเห็น