VCOM คาดเข้าเทรด mai ปลายเดือน ธ.ค. นี้ โดยจะขายหุ้นไอพีโอ จำนวน 80 ล้านหุ้น เผยระดมทุนใช้เป็นทุนหมุนเวียน-เพิ่มศักยภาพขยายงานในและต่างประเทศ
นางนิสาภรณ์ ฤกษ์อร่าม กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอดไวเซอรี่ พลัส จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน ในการนำหุ้น บมจ. วินท์คอม เทคโนโลยี (VCOM) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อนุมัติแบบคำขออนุญาตเสนอหุ้นที่ออกใหม่ และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (Filing) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่ให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 80 ล้านหุ้น คิดเป็น 26.67% ของจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทฯ
VCOM เป็นผู้ดำเนินธุรกิจเป็นตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์เทคโนโลยีด้านคอมพิวเตอร์ยี่ห้อ ออราเคิล (Oracle), ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ (Hitachi Data Systems), พาโล อัลโต เน็ตเวิร์กส์ (Palo Alto Networks), อริสต้า เน็ตเวิร์กส์ (Arista Networks), อินโฟบล็อกซ์ (Infoblox), อินฟอร์เมติก้า (Informatica) และสปลังค์ (Splunk) ซึ่งเป็นผู้นำในการผลิตระบบเทคโนโลยีสารสนเทศระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา ในรูปแบบลักษณะการขายแบบโซลูชัน อาทิ คอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์, หน่วยเก็บข้อมูล, ระบบคอมพิวเตอร์แบบรวมศูนย์, ระบบรักษาความปลอดภัยบนระบบเครือข่าย, ระบบฐานข้อมูล, ระบบปฏิบัติการ, ระบบเสมือน, มิดเดิ้ลแวร์, ซอฟต์แวร์พัฒนาระบบ และซอฟต์แวร์ที่ทำหน้าที่ในการบริหารจัดการข้อมูล
รวมถึงการให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่เกี่ยวเนื่องกับผลิตภัณฑ์ที่บริษัทเป็นตัวแทนจำหน่าย ได้แก่ บริการติดตั้งระบบ บริการบำรุงรักษาระบบทั้งแบบป้องกันและแบบแก้ไข และบริการงานเฉพาะทางที่ต้องใช้ความชำนาญจากผู้เชี่ยวชาญด้านไอที เช่น การปรับปรุงหรือโอนย้ายฐานข้อมูล การโอนย้ายระบบงาน การปรับค่าตัวแปรต่าง ๆ ของระบบ เป็นต้น
ปัจจุบัน VCOM มีทุนจดทะเบียน 150 ล้านบาท และทุนชำระแล้ว 110 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ จำนวน 220 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท
สำหรับผลประกอบการของบริษัทในช่วงที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตก้าวกระโดดต่อเนื่อง จากความต้องการใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อความปลอดภัยในการเก็บรักษาข้อมูลของบริษัทชั้นนำ หรือแม้แต่ภาครัฐเองก็ตาม โดยผลการดำเนินงาน 3 ปีย้อนหลัง ปี 57 มีรายได้ 743 ล้านบาท กำไรสุทธิ 45 ล้านบาท, ปี 58 มีรายได้ 816 ล้านบาท กำไรสุทธิ 41 ล้านบาท, ปี 59 มีรายได้ 949 ล้านบาท กำไรสุทธิ 46 ล้านบาท (กำไรส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 41 ล้านบาท)
งวด 9 เดือนแรกของปี 60 มีรายได้ 1,119 ล้านบาท กำไรสุทธิ 56 ล้านบาท (กำไรส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 44 ล้านบาท) ซึ่งสัดส่วนรายได้ปี 59 และงวด 9 เดือนแรกของปี 60 มาจากการจำหน่ายสินค้า ประมาณ 75% และอีก 25% มาจากรายได้การให้บริการ
ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิ
นางทรงศรี ศรีรุ่งเรืองจิต กรรมการผู้จัดการ VCOM กล่าวว่า การเข้าจดทะเบียนในตลาด mai ในครั้งนี้ ถือเป็นแนวทางในการสร้างโอกาสการลงทุน และต่อยอดธุรกิจในอนาคต เพราะเม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุนจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ โดยเฉพาะการขยายงานขายโครงการใหญ่ทั้งในประเทศ และประเทศในกลุ่ม CLM หรือกัมพูชา ลาว และพม่า ซึ่งมองว่าเป็นประเทศอยู่ในช่วงของการพัฒนาเศรษฐกิจ ความต้องการสินค้าระบบเทคโนโลยีสารสนเทศทั้งด้านซอฟต์แวร์ และฮาร์ดแวร์ จึงมีความต้องการใช้สูง
สำหรับจุดแข็งของ VCOM นอกเหนือจากที่เป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Distributor) และการให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่เกี่ยวเนื่องกับผลิตภัณฑ์ที่เป็นตัวแทนจำหน่ายให้กับเจ้าของผลิตภัณฑ์ (Vendor) 7 รายใหญ่ระดับโลกแล้ว บริษัทฯ ยังได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มลูกค้าระดับต้น ๆ ของประเทศ ซึ่งถือเป็นกลุ่มเป้าหมายของบริษัทฯ ประกอบด้วย ผู้รวบรวมระบบงาน (system integrators) และผู้ใช้งานทั่วไป (end users) ประเภทองค์กรขนาดกลางและขนาดใหญ่ทั้งภาครัฐ และเอกชน
นอกจากธุรกิจข้างต้นแล้ว บริษัทฯ ยังมีบริษัทย่อย 2 แห่ง ได้แก่ บริษัท วินท์คอม เทคโนโลยี (เมียนมาร์) จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจให้คำปรึกษาและบริการในประเทศพม่า และบริษัท วีเซิร์ฟพลัส จำกัด ดำเนินธุรกิจให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และงานบริการหลังการขายผ่านการให้บริการของศูนย์บริการทั้ง 13 แห่ง
“เพื่อเป็นการเสริมศักยภาพความแข็งแกร่ง และความครบวงจรของธุรกิจ เมื่อเดือน ส.ค. 59 บริษัทฯ ได้ร่วมทุนกับบริษัท วีเอสที อีซีเอส (ประเทศไทย) จำกัด (VST ECS) (ชื่อเดิมคือ บริษัท เดอะแวลลูซิสเตมส์ จำกัด) จัดตั้ง บริษัท วีเซิร์ฟพลัส จำกัด ทุนจดทะเบียน 40 ล้านบาท โดย VCOM ถือหุ้น 51% และ VST ECS ถือหุ้น 49% เพื่อดำเนินธุรกิจให้บริการด้านไอที ไปจนถึงบริการ Call Center บริการหลังการขายผ่านศูนย์บริการทั่วประเทศ ทำให้สามารถให้บริการได้อย่างทั่วถึง ทั้งในกลุ่มลูกค้าองค์กร และลูกค้ารายย่อย ซึ่งธุรกิจการให้บริการดังกล่าวจะเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับ VCOM อีกธุรกิจหนึ่ง” นางทรงศรี กล่าว