ธพว. ปลื้มภาพรวมสนับสนุนสินเชื่อแก่เอสเอ็มอีใต้ตามเป้ามูลค่ากว่า 15,000 ล้านบาท จำนวนประมาณ 12,000 ราย ตอบโจทย์สร้างโอกาสรายย่อย ระบุผลจากมาตรการช่วยเหลือทางการเงินเหมาะสม อัตราดอกเบี้ยต่ำ และมีกลไก บสย. ช่วยค้ำประกัน ประกาศขานรับนโยบายรัฐบาล ขยายบทบาทด้านการพัฒนา มุ่งสร้างเศรษฐกิจระดับท้องถิ่นแข็งแกร่ง
นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว. หรือ SME Development Bank) เผยว่า ภาพรวมสินเชื่อของธนาคารในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ นับถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายน 2560 ที่ผ่านมา พบว่ามีมูลค่ากว่า 15,000 ล้านบาท จำนวนประมาณ 12,000 ราย โดยสงขลา คือ จังหวัดที่มียอดสินเชื่อสูงสุดกว่า 2,800 ล้านบาท
ทั้งนี้ ยอดอนุมัติส่วนใหญ่อยู่ในระดับ 1-5 ล้านบาทต่อราย จำนวนประมาณ 4,900 รายบัญชี สะท้อนให้เห็นว่า ส่วนมากการอนุมัติสินเชื่อของธนาคาร สนับสนุนไปยังกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อย ตรงตามพันธกิจของธนาคาร ที่มุ่งสร้างโอกาสผู้ประกอบการขนาดเล็กที่ยากจะเข้าถึงบริการของธนาคารพาณิชย์ให้สามารถเข้าถึงแหล่งทุนในระบบได้
นายมงคล กล่าวเสริมว่า ในส่วนพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ประกอบด้วยปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ยอดอนุมัติสินเชื่ออยู่ที่ประมาณ 2,100 ล้านบาท หรือคิดเป็นประมาณ 15% จากยอดอนุมัติรวมของ 14 จังหวัดภาคใต้ ซึ่งเป็นสัดส่วนที่น่าพอใจ เนื่องจาก ธพว. มีผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่สอดคล้องกับผู้ประกอบการในพื้นที่ และล้วนคิดอัตราดอกเบี้ยต่ำพิเศษ เช่น โครงการสินเชื่อ SMEs Transformation Loan วงเงิน 15,000 ล้านบาท กู้ได้รายละไม่เกิน 15 ล้านบาท ระยะเวลากู้ยืมไม่เกิน 7 ปี ปลอดชำระคืนเงินต้นสูงสุดไม่เกิน 12 เดือน อัตราดอกเบี้ยต่ำ 3% คงที่ 3 ปีแรก ปีที่ 4-7 อัตราดอกเบี้ย MLR ต่อปี นอกจากนี้ กรณีกู้ไม่เกิน 5 ล้านบาท สามารถใช้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ช่วยค้ำประกันได้โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์
โครงการสินเชื่อฟื้นฟู SMEs จากอุทกภัยภาคใต้ ปี 2560 วงเงิน 5,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยเพียง 3% ในเขตพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบและความเสียหายจากภัยธรรมชาติ สามารถใช้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ค้ำประกันได้เช่นกัน โครงการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบกิจการใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ยะลา, ปัตตานี และนราธิวาส) จำนวน 1,000 ล้านบาท ช่วยผู้ประกอบกิจการ SMEs เขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนใต้ ให้มีเงินทุนหมุนเวียนให้กิจการสามารถดำเนินการต่อไปได้อัตราดอกเบี้ยเพียง 1.5%
กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ วงเงินกองทุน 20,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยเพียง 1% ตลอดอายุสัญญาระยะเวลาชำระคืน 7 ปี ไม่ต้องผ่อนชำระหนี้ใน 3 ปีแรก ไม่ต้องมีหลักประกันให้กู้สูงสุด 10 ล้านบาทต่อราย และ 75% ขึ้นไป จะเป็นวงเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อราย
อีกทั้งธนาคารมุ่งพัฒนาศักยภาพให้แก่ผู้ประกอบการภาคใต้ให้มีขีดความสามารถทางธุรกิจสูงขึ้น และสอดคล้องกับความชำนาญดั้งเดิม รวมถึงทรัพยากรธรรมชาติในแต่ละพื้นที่ ผ่านการสนับสนุนเรื่องความรู้ด้านต่าง ๆ เช่น ด้านยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ หรือเพิ่มมูลค่าของการท่องเที่ยวชุมชน
ส่วนแนวทางการสนับสนุนเอสเอ็มอีในพื้นที่ภาคใต้ รวมถึงพื้นที่อื่น ๆ ทั่วประเทศ ธพว. เดินตามนโยบายของรัฐบาล ที่ต้องการให้หน่วยงานรัฐวิสาหกิจทั้งหมดเพิ่มบทบาทเป็นกลไกพัฒนาท้องถิ่น เพื่อสร้างเศรษฐกิจฐานรากเข้มแข็ง โดย ธพว. จากเดิมที่มีการส่งทีมงานลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประกอบการถึงพื้นที่ชุมชนอยู่แล้ว จะขยายภารกิจนี้ให้ครอบคลุมและทั่วถึงมากยิ่งขึ้น รวมถึงนำเทคโนโลยีมาช่วยให้บริการแก่เอสเอ็มอีในท้องถิ่นได้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น
ตลอดจนประสานงานกับหน่วยงานรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ โดยเฉพาะสถาบันการเงินของรัฐ เช่น ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย และธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย เชื่อมโยงข้อมูลระหว่างกันเป็น “บิ๊กดาต้า” สนับสนุนเอสเอ็มอีในท้องถิ่น เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ขณะเดียวกัน ธพว. จะออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เหมาะสมในการสร้างโอกาส และช่วยให้เอสเอ็มอีทั้งกลุ่มสตาร์ทอัป รายย่อย และชุมชน เข้าถึงแหล่งทุนได้สะดวกอย่างต่อเนื่อง