ไทยพาณิชย์ สรุปแผนปีหน้าเดือน ธ.ค. นี้ ปรับกลยุทธใหม่ เน้นปรับตัวเร็วให้ทันต่อสภาวะแวดล้อม-รายได้ที่ลดลงยังเป็นโจทย์ใหญ่ ด้านดีลแสนสิริ ซื้อโครงการขอ PACE คาดเสร็จต้นปีหน้า
นายอาทิตย์ นันทวิทยา กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (SCB) กล่าวถึงกรณีการเสนอขายโครงการเดอะริทซ์-คาร์ลตัน เรสซิเดนเซส บางกอก ในโครงการอาคารชุดมหานคร และโครงการนิมิตรหลังสวนของบริษัท เพซ ดีเวลลอปเม้นท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (PACE) ให้กับบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) (SIRI) ในฐานะที่ธนาคารเป็นเจ้าหนี้รายหนึ่งว่า ธนาคารได้ดำเนินการเชิญผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์หลายรายเข้ามาเจรจา ซึ่งกระบวนการนี้ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก และสุดท้าย บริษัทแสนสิริ ก็ได้รับสิทธิดังกล่าว โดยกระบวนการต่อไป เป็นการประเมินมูลค่าสินทรัพย์ ซึ่งคาดว่ากระบวนการทั้งหมดจะแล้วเสร็จต้นเดือนมกราคมปีหน้า แต่การทำ Due diligence เพื่อเข้าซื้อสินทรัพย์ต่าง ๆ จะสำเร็จหรือไม่ เป็นเรื่องของอนาคต โดยธนาคารไทยพาณิชย์เป็นเพียงผู้สนับสนุนในโครงการเท่านั้น
ทั้งนี้ การขายทรัพย์สินดังกล่าวสามารถช่วยบริษัทปรับปัญหาทางด้านสภาพคล่อง ลดภาระหนี้ ซึ่งไม่ใช่หนี้ของธนาคารเพียงอย่างเดียว แต่ยังสามารถทำให้บริษัทมีกระแสเงินสดจนมาชำระตั๋วบี/อีได้ ทำให้ความเชื่อมั่นกลับคืนมา ซึ่งดีลครั้งนี้เป็นการปรับเปลี่ยนโครงสร้างทางการเงินของบริษัท แต่ยังต้องเดินหน้าทำต่อไปอีกหลายเรื่องทั้งเรื่องธุรกิจ ปรับโครงสร้างเงินทุน โดยจากสถานะทางการเงินของบริษัทแล้ว ยังมีความแข็งแรง ทิศทางอนาคตยังไปได้ ขีดความสามารถในการสร้างธุรกิจยังมีอยู่ แต่สิ่งสำคัญ คือ ต้องผ่านวิกฤตการความเชื่อมั่นไปให้ได้ก่อน ซึ่งที่ผ่านมา บริษัทไม่ได้มีปัญหาการชำระเงิน ส่วนเงินจากการเพิ่มทุนบริษัทจะเอามาชำระหนี้ใครก่อนนั้น ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้บริหารเอง
“ธนาคารตั้งใจทำสิ่งเหล่านี้ก็เพื่อให้ภาพใหญ่เกิดความเชื่อมั่นกับระบบ ให้สามารถแยกระหว่างธุรกิจที่มีปัญหา กับที่มีพื้นฐานธุรกิจจริง ๆ ไม่ได้เกิดปัญหาจากการดึงเงินกลับอย่างรวดเร็ว เพราะปัญหาความเชื่อมั่น ทำให้คนกลัวไปหมด แต่พอผ่านไป จะแยกออกระหว่างคนที่ไปได้ กับไม่สมควรไปต่อ ก็ไม่ควรให้คนที่มีพื้นฐานธุรกิจที่ดีได้รับผลกระทบไปด้วย”
สรุปแผยปีหน้าของแบงก์ ธ.ค. นี้
สำหรับแผนธุรกิจปีหน้าของธนาคารไทยพาณิชย์ คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนหน้า โดยธนาคารจะเปลี่ยนยุทธศาสตร์ แต่ยังไม่สามารถระบุภาพรวมของธนาคารในปีหน้า เนื่องจากขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมหลาย ๆ อย่าง ทั้งที่ส่งผลดีและไม่ดีกับธนาคาร แต่ธนาคารจะแข็งแรงขึ้น ซึ่งมาจากการปรับขีดความสามารถเพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา เพื่อให้มีความสามารถในการรองรับกับปัจจัยต่าง ๆ ได้ โดยการปรับเปลี่ยนที่รวดเร็ว และผลกระทบต่อรายได้ ถือว่าเป็นโจทย์ใหญ่ของธนาคารที่ต้องปรับตัว