“อธิบดีกรมบัญชีกลาง” เผยยอดผู้ขอรับบัตรสวัสดิการตั้งแต่ 21 ก.ย.-1 ต.ค. จะมีทั้งสิ้นกว่า 6 ล้านราย ด้านเจ้าหน้าที่คลังจังหวัด และพาณิชย์จังหวัด แจ้งยังมีร้านธงฟ้าประชารัฐบางร้านฉวยโอกาสให้ผู้มีสิทธิเปลี่ยนวงเงินซื้อสินค้าในบัตรไปเป็นเงินสด ย้ำการกระทำดังกล่าวไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของรัฐบาล และผิดเงื่อนไขที่กระทรวงการคลังกำหนด ระบุกรมบัญชีกลางจะดำเนินการเรียกคืนเครื่อง EDC จากเจ้าของร้านที่ทำความผิดโดยทันที ส่วนผู้มีสิทธิที่ร่วมกระทำความผิดจะถูกตัดสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และต้องคืนเงินให้แก่ทางราชการ รวมทั้งอาจจะมีโทษตามที่กฎหมายกำหนดด้วย
นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยจำนวนผู้มีสิทธิมารับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐตั้งแต่วันที่ 21 กันยายน-วันที่ 1 ตุลาคม 2560 ว่ามีจำนวนกว่า 6 ล้านคน ทั้งนี้ ผู้มีสิทธิตามบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำนวนประมาณ 400,000 ราย ได้มาใช้สิทธิซื้อสินค้าจากร้านธงฟ้าประชารัฐ ประเภทสินค้าอุปโภคเป็นจำนวนมาก คิดเป็นจำนวนเงินกว่า 100 ล้านบาท
แต่ในขณะเดียวกัน ก็ได้รับข้อมูลจากเจ้าหน้าที่คลังจังหวัด และพาณิชย์จังหวัด ที่ลงพื้นที่ติดตามการใช้สิทธิตามบัตรสวัสดิการแห่งรัฐกับการซื้อสินค้าร้านธงฟ้าว่า ยังมีร้านธงฟ้าประชารัฐบางร้านได้ฉวยโอกาสให้ผู้มีสิทธิเปลี่ยนวงเงินซื้อสินค้าเป็นเงินสด ซึ่งการกระทำดังกล่าวไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของรัฐบาลที่ต้องการให้ความช่วยเหลือในการลดค่าครองชีพของประชาชน
อธิบดีกรมบัญชีกลาง ได้ย้ำว่า ตามเงื่อนไขการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐนั้น ไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ในทุกกรณี และกรณีหากผู้ใดกระทำผิดไปจากเงื่อนไขที่กำหนดแล้วจะถูกกระทรวงพาณิชย์ถอนออกจากทะเบียนร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ และทางกรมบัญชีกลางจะดำเนินการเรียกคืนเครื่อง EDC จากเจ้าของร้านทันที ส่วนผู้มีสิทธิที่ร่วมกระทำผิดจะถูกตัดสิทธิในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และต้องคืนเงินให้แก่ทางราชการ รวมทั้งอาจมีโทษตามที่กฎหมายกำหนดด้วย
ทั้งนี้ รัฐบาลได้ให้ความช่วยเหลือผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อต้องการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนผู้มีสิทธิ โดยขอให้ผู้มีสิทธิทุกคนปฏิบัติตามเงื่อนไขการใช้บัตรอย่างถูกต้อง ทั้งนี้ อยากให้ประชาชนทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน ช่วยกันสอดส่องดูแลในเรื่องดังกล่าว โดยหากพบเห็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ สำนักงานคลังจังหวัด และสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัด หรือติดต่อแจ้งเข้ามาได้ที่ Call Center บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หมายเลขโทรศัพท์ 02-109-2345
นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยจำนวนผู้มีสิทธิมารับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐตั้งแต่วันที่ 21 กันยายน-วันที่ 1 ตุลาคม 2560 ว่ามีจำนวนกว่า 6 ล้านคน ทั้งนี้ ผู้มีสิทธิตามบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำนวนประมาณ 400,000 ราย ได้มาใช้สิทธิซื้อสินค้าจากร้านธงฟ้าประชารัฐ ประเภทสินค้าอุปโภคเป็นจำนวนมาก คิดเป็นจำนวนเงินกว่า 100 ล้านบาท
แต่ในขณะเดียวกัน ก็ได้รับข้อมูลจากเจ้าหน้าที่คลังจังหวัด และพาณิชย์จังหวัด ที่ลงพื้นที่ติดตามการใช้สิทธิตามบัตรสวัสดิการแห่งรัฐกับการซื้อสินค้าร้านธงฟ้าว่า ยังมีร้านธงฟ้าประชารัฐบางร้านได้ฉวยโอกาสให้ผู้มีสิทธิเปลี่ยนวงเงินซื้อสินค้าเป็นเงินสด ซึ่งการกระทำดังกล่าวไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของรัฐบาลที่ต้องการให้ความช่วยเหลือในการลดค่าครองชีพของประชาชน
อธิบดีกรมบัญชีกลาง ได้ย้ำว่า ตามเงื่อนไขการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐนั้น ไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ในทุกกรณี และกรณีหากผู้ใดกระทำผิดไปจากเงื่อนไขที่กำหนดแล้วจะถูกกระทรวงพาณิชย์ถอนออกจากทะเบียนร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ และทางกรมบัญชีกลางจะดำเนินการเรียกคืนเครื่อง EDC จากเจ้าของร้านทันที ส่วนผู้มีสิทธิที่ร่วมกระทำผิดจะถูกตัดสิทธิในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และต้องคืนเงินให้แก่ทางราชการ รวมทั้งอาจมีโทษตามที่กฎหมายกำหนดด้วย
ทั้งนี้ รัฐบาลได้ให้ความช่วยเหลือผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อต้องการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนผู้มีสิทธิ โดยขอให้ผู้มีสิทธิทุกคนปฏิบัติตามเงื่อนไขการใช้บัตรอย่างถูกต้อง ทั้งนี้ อยากให้ประชาชนทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน ช่วยกันสอดส่องดูแลในเรื่องดังกล่าว โดยหากพบเห็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ สำนักงานคลังจังหวัด และสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัด หรือติดต่อแจ้งเข้ามาได้ที่ Call Center บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หมายเลขโทรศัพท์ 02-109-2345
