ไทยพาณิชย์แจงมีความพร้อมตามประกาศของแบงก์ชาติ ครบข้อกำหนด D-SIBs เพราะดำรงเงินกองทุนตามกฎหมายขั้นต่ำ และมีอัตราส่วนเงินกองทุนรวมต่อสินทรัพย์เสี่ยงกว่า 17.62% ซึ่งสูงเกินกว่าเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด ยืนยันเงินกองทุน ธนาคารไทยพาณิชย์ จึงไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ จากการประกาศในครั้งนี้
นางกิตติยา โตธนะเกษม รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส Chief Financial Officer ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากประกาศของ ธปท. กรณี D-SIBs นั้น เป็นแนวทางการกำกับดูแลธนาคารพาณิชย์ของธนาคารแห่งประเทศไทยตามเกณฑ์บาเซิล 3 เพื่อให้ธนาคารพาณิชย์ที่มีความสำคัญเชิงระบบ มีเสถียรภาพและมีการพัฒนาอย่างยั่งยืนในระยะยาว รวมถึงเพิ่มความสามารถในการการดำเนินงานได้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้ กำหนดให้ธนาคารพาณิชย์ในกลุ่มดังกล่าวต้องดำรงเงินกองทุนตามกฎหมายขั้นต่ำ (Common Equity Tier 1) เพิ่มขี้น 1% ในปี 2563 ซึ่งจะทำให้อัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ขั้นต่ำกลายเป็น 9.5% และอัตราส่วนเงินกองทุนรวมต่อสินทรัพย์เสี่ยงทั้งสิ้นเป็น 12%
โดย ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2560 ธนาคารไทยพาณิชย์มีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 อยู่ในระดับ 15.49% และมีอัตราส่วนเงินกองทุนรวมต่อสินทรัพย์เสี่ยงทั้งสิ้นอยู่ที่ 17.62% ซึ่งสูงเกินกว่าเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดอยู่มาก (ไม่ว่าจะเป็นเกณฑ์ขั้นต่ำในปัจจุบัน หรือในอนาคต)
ทั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายธนาคารฯ ที่ให้ความสำคัญอย่างยิ่งในเรื่องความมั่นคงของเงินกองทุนให้สูงกว่าเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทยเสมอมา เพื่อพร้อมต่อการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง
ดังนั้น ด้วยสถานะที่แข็งแกร่งของเงินกองทุน ธนาคารไทยพาณิชย์ จึงไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ จากการประกาศในครั้งนี้