กรมสรรพสามิตปรับอัตราภาษีใหม่ ตาม พ.ร.บ. ภาษีสรรพสามิตที่บังคับใช้วันนี้เป็นวันแรก บุหรี่ปรับเพิ่มขึ้น 2-15 บาทต่อซอง สุราปรับขึ้นสูงสุด 30 บาท อธิบดีกรมสรรพสามิตระบุปรับเพิ่มเฉลี่ย 2% จึงไม่กระทบราคาขายปลีกมากนัก พร้อมยังเตือนผู้ประกอบการอย่าฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาเกินจริง
นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า วันนี้ (16 ก.ย.) พ.ร.บ. ภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 (ฉบับใหม่) เริ่มมีผลบังคับใช้เป็นวันแรก เนื้อหาสาระเพื่อให้เกิดความโปร่งใสเป็นธรรม และเป็นสากล โดยมีการออกกฎหมายลำดับรอง 80 ฉบับให้สอดคล้องกับกฎหมายแม่บท โดยเฉพาะอัตราการจัดเก็บภาษีสินค้าและบริการต่าง ๆ โดยภาพรวมการจัดทำ พ.ร.บ. ดังกล่าว สินค้า 3 กลุ่ม ทั้งกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย กลุ่มกระทบกับสิ่งแวดล้อม และกลุ่มสินค้าบาป โดยเน้นสิ่งที่ทำลายสุขภาพและมีภาษีใหม่ เช่น การเก็บภาษีจากค่าความหวาน ซึ่งทั้งหมดยังอยู่ในหลักการเดิม แต่ถูกเปลี่ยนมูลค่าการเก็บภาษี รวมทั้งบุหรี่จะคิดแบบมูลค่าบวกปริมาณ โดยนโยบายของรัฐบาลครั้งนี้ไม่ต้องการให้เป็นการผลักภาระให้ประชาชนมากเกินไป
สำหรับภาษีน้ำหวาน จะมีการเก็บขึ้นอยู่กับปริมาณความหวานเป็นไปตามที่กฎกระทรวงกำหนด ซึ่งเดิมน้ำผัก และผลไม้ ไม่ต้องชำระภาษี เนื่องจากเป็นน้ำเพื่อสุขภาพ แต่หากมีค่าความหวานเกินก็ต้องมีการชำระภาษีเช่นเดียวกัน โดยน้ำอัดลมสูตรปกติ เพิ่มขึ้น 0.13-0.50 บาท เครื่องดื่มบำรุงกำลัง เพิ่มขึ้น 0.32-0.36 บาท
ส่วนการเก็บภาษีสุราในระบบผสมทั้งตามมูลค่า เพื่อสะท้อนถึงความฟุ่มเฟือย และตามปริมาณ เพื่อสะท้อนถึงหลักคุณภาพ โดยเบียร์เพิ่มขึ้น 0.5-2.66 บาท (เบียร์กระป๋องจะเพิ่มขึ้น 50 สตางค์ต่อกระป๋อง เบียร์ชนิดขวดเพิ่มขึ้น 2 บาทต่อขวด) สุราขาว เพิ่มขึ้น 0.84-3.49 บาท ตามขนาดและดีกรี ไวน์ที่มีราคาต่ำกว่า 1,000 บาท จะลดราคาลง 25บาทต่อขวด ไวน์ที่ราคาเกิน 1,000 บาท ปรับราคาเพิ่มขึ้น 110 บาทต่อขวด สุรากลั่น ขนาด700 cc 28 ดีกรี เพิ่มขึ้น 8 บาทต่อขวด สุรา 40 ดีกรี เพิ่มขึ้น 30 บาทต่อขวด
ด้านภาษียาสูบ บุหรี่ในประเทศที่ราคาถูกกว่า 60 บาทต่อซอง จะเพิ่มขึ้นประมาณ 4-15 บาท และบุหรี่นำเข้าแพงกว่า 60 บาทต่อซอง เพิ่มขึ้น 2-10 บาทใน 2 ปีแรก เพื่อป้องกันการนำเข้าบุหรี่เถื่อนมาจำหน่ายในประเทศ ขณะที่การเก็บอัตราภาษีรถยนต์แบบใหม่ไม่ได้มีผลกระทบมาก โดยภาพรวมการจัดเก็บภาษีทั้งหมดนี้จะทำให้เม็ดเงินเพิ่มร้อยละ 2 หรือประมาณ 12,000 ล้านบาท จากอัตราภาษีเดิม อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่า การแข่งขันทางการตลาดจะไม่มีการเพิ่มราคาขายปลีกของสินค้า
อธิบดีกรมสรรพสามิตยังฝากถึงผู้ประกอบการอย่าเป็นกังวลในช่วงเปลี่ยนผ่าน เนื่องจากยังเป็นเรื่องใหม่ ซึ่งกรมสรรพสามิตได้มีเจ้าหน้าที่คอยแนะนำชี้แจงอยู่แล้ว พร้อมทั้งยังได้ประสานกรมการค้าภายในเพื่อตรวจสตอกสินค้าลอตเดิม พร้อมทั้งยังได้เตือนผู้ประกอบการอย่ากักตุนสินค้าเนื่องจากทางการสามารถตรวจสอบได้ และหากพบว่ามีความผิดก็จะดำเนินการตามกฎหมายของกรมการค้าภายใน ส่วนผู้ประกอบการที่ต้องการแจ้งปรับราคาขายปลีก และแจ้งจดทะเบียนนั้น สามารถเดินทางมาดำเนินการได้ที่กรมสรรพสามิตทั่วประเทศช่วงสุดสัปดาห์นี้ หากประชาชน และผู้ประกอบการ มีปัญหาต้องการความรู้เรื่องการจัดเก็บภาษีสามารถโทรสายด่วน 1713 ได้ทุกวัน