ผู้นำในตลาดเฟอร์นิเจอร์ของเมืองไทย “อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์” พลิกโฉมวงการสินค้าเฟอร์นิเจอร์บิวลต์อิน กับการเปิดตัวนวัตกรรมเฟอร์นิเจอร์บิวลต์อิน “ยูนีค” นวัตกรรมใหม่ที่คิดค้นเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าคอนโดฯ เมือง ช่วยเติมเต็มและเพิ่มพื้นที่ใช้สอยการอยู่อาศัยให้มากขึ้น วางเป้าสินค้าระดับพรีเมียมแมส พร้อมเปิดสาขาแรกที่อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ พระราม 2 และในปี 61 ครอบคลุม 28 สาขา งบผูกพัน 100-200 ล้านบาท ลั่นใน 3 ปี มียอดขาย 3,000 ล้านบาท
นายเอกลักษณ์ ปัทมสัตยาสนธิ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาธุรกิจ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบัน ทิศทางตลาดเฟอร์นิเจอร์ในไทยยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ มาจากปัจจัยการเติบโตที่สอดคล้องกับจำนวนของโครงการคอนโดมิเนียมและอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ ที่เปิดเพิ่มขึ้นตามแนวรถไฟฟ้าสายต่าง ๆ รวมถึงที่อยู่อาศัยในรูปแบบบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ ส่งผลให้เกิดความต้องการเฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่งบ้านเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าในปัจจุบัน ผู้บริโภคมีความต้องการในสินค้าเฟอร์นิเจอร์ที่มีขนาด และดีไซน์ได้ เพื่อตอบรับกับพฤติกรรมการอยู่อาศัยของผู้อยู่อาศัยมากยิ่งขึ้น โดยพบว่า มูลค่าตลาดเฟอร์นิเจอร์ในไทยอย่างไม่เป็นทางการประมาณ 50,000 ล้านบาท และเติบโตขึ้นทุก ๆ ปี
“ดังนั้น เพื่อต่อยอดความสำเร็จทางด้านรายได้ การรุกตลาดเพิ่มขึ้น จึงเป็นช่องทางที่จะเพิ่มโอกาสให้กับบริษัท โดยได้ขยายบิสิเนสใหม่ เพื่อช่วยลดปัญหา ลดขั้นตอน และลดค่าใช้จ่ายให้แก่ลูกค้าที่ต้องการทำเฟอร์นิเจอร์บิวต์อิน ภายใต้ชื่อ “ยูนีค” ซึ่งเป็นเทคโนโลยีบิวต์อินอัจฉริยะ 4.0 ที่สามารถปรับพื้นที่จาก 35 ตร.ม. เพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้เทียบเท่า 53 ตร.ม. ได้จริง หรือคิดเป็นพื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้น 50% และมีระดับราคาถูกกว่าตลาดประมาณ 20% โดยเจาะกลุ่มเป้าหมายลูกค้าในโครงการคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ เน้นลูกค้าระดับอายุ อายุ 25-40 ปี ระดับพรีเมียมแมสที่ต้องการใช้พื้นที่ตั้งแต่ 22 ตร.ม. ขึ้นไป ซึ่งลูกค้าหลัก ๆ จะเป็นกลุ่มที่อยู่ในคอนโดฯ ในเมือง ยิ่งเป็นกลุ่มวัยรุ่นจะชอบเรื่องดีไซน์ การใช้ประโยชน์ของเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งผลิตภัณฑ์ยูนีค จะตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มนี้ได้เยอะมาก”
ซึ่งในแผนธุรกิจ ขณะนี้ได้เริ่มเปิดให้บริการแล้วที่อินเด็กซ์ลีฟวิ่งมอลล์ สาขาพระราม 2 และสิ้นปี 2560 จะอีก 4 สาขา ทั้งนี้ จะเปิดครบทั้ง 28 สาขาทั่วประเทศ ใช้งบลงทุนต่อสาขา 5-6 ล้านบาท รวมกว่า 100-200 ล้านบาทในกลางปี 2561 และคาดว่าสิ้นปี 2561 จะมีรายได้จากแบรนด์ยูนีค รวม 800 ล้านบาท คิดเป็น 6-8% ของรายได้รวมของบริษัทที่ราว 10,000 ล้านบาท และตั้งเป้าหมายอัตราการเติบโตรายได้ต่อปีมากกว่า 10% ต่อปี โดยกำหนดเป้าหมายในอีก 3 ปีข้างหน้า (2561-2563) แบรนด์ยูนีค จะเป็นโปรดักต์แชมเปียนของบริษัท หรือมีรายได้มากกว่า 3,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนในการทำตลาดเชิงรุกเพื่อรองรับการเติบโต ด้วยการตอกย้ำความแตกต่าง ด้วยการเพิ่มไลน์สินค้าเพื่อขยายกลุ่มเป้าหมาย การเพิ่มจำนวนเพอร์ซันแนลดีไซเนอร์ในการให้คำปรึกษาและออกแบบ ซึ่งคาดว่าในปี 2561 จะมีเพอร์ซันแนลดีไซเนอร์ รวม 350 คน นอกจากนี้ บริษัทมีแผนจัดบูทงานแฟร์ต่าง ๆ เพื่อแนะนำ “ยูนีค” และให้คำปรึกษาโดยตรงกับลูกค้าอีกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการเปิดตัวเฟอร์นิเจอร์บิวต์อิน ยูนีค ที่สาขาพระราม 2 จะมีการจำลองเฟอร์นิเจอร์ลงในพื้นที่ใช้สอยจริงในรูปแบบโครงการคอนโดมิเนียมของบริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) โดยมีทั้งแบบห้องขนาด 26 และ 27 ตารางเมตร (ตร.ม.) จนไปถึง 68 ตร.ม. เป็นต้น ซึ่งเฟอร์นิเจอร์ที่นำเสนอจะถูกออกแบบให้เกิดประโยชน์การใช้สอยของพื้นที่มากที่สุด หรืออีกความหมาย คือ ไม่เหลือพื้นที่เปล่าประโยชน์ มีการดีไซน์ห้องลับ หรือห้องเก็บของ.