บล. โกลเบล็ก เผยหุ้นไทยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ ส่วนเวิลด์แบงก์ คาดเศรษฐกิจไทยปี 61 ขยายตัว 3.6% ต่อเนื่องจากปีนี้ หนุนดัชนีแกว่งตัวในกรอบ 1,600-1,620 จุด แนะลงทุน CK อานิสงส์เปิดประมูลรถไฟรางคู่ 3 เส้นทาง และ BANPU ราคาถ่านหินทรงตัวในระดับสูง 97.6 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน ด้านแนวโน้มราคาทองคำทะยานขึ้นเหนือระดับ 1,300 ดอลลาร์สหรัฐฯ และเข้าสู่ทิศทางขาขึ้นรอบใหม่ จึงแนะนำให้เก็งกำไรรอบสั้น และทยอยปิดทำกำไรเมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้น
น.ส. วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีขึ้น ทำให้กรอบอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจปี 60 ปรับเพิ่มขึ้นจากประมาณการเมื่อต้นปี โดยเวิลด์แบงก์ คาดเศรษฐกิจไทยปี 61 ขยายตัว 3.6% โดยมีการลงทุนบริโภคเอกชนเป็นแรงหนุน ขณะที่หนี้ครัวเรือนเริ่มลดลง รวมทั้งตัวเลขส่งออกไทยเดือน ก.ค. 60 เติบโต 10.5% ในช่วง 7 เดือนแรกปี 60 การส่งออก เติบโต 8.2% สูงสุดในรอบ 6 ปี เกินดุล 6,783 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และ ครม. เห็นชอบมาตรกระตุ้นเศรษฐกิจรวมทั้งเร่งเบิกจ่ายงบประมาณประจำปีก่อนที่จะสิ้นสุดในปลายเดือนกันยายน 2560
ส่วนสถานการณ์การเมืองมีความผ่อนคลายมากขึ้น หลังไม่มีความรุนแรง รวมถึงการประท้วงต่อคำพิพากษาทุจริตโครงการจำนำข้าว ที่ศาลฯ มีคำสั่งจำคุกอดีต รมต. ที่เกี่ยวข้อง พร้อมให้ชดใช้ค่าเสียหายมูลค่า 1.7 หมื่นล้านบาท
ขณะที่ยังมีปัจจัยกดดันจากต่างประเทศยังคงต้องจับตาสถานการณ์ตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี หลังจากเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธข้ามน่านฟ้าญี่ปุ่นไปตกในมหาสมุทรแปซิฟิกในช่วงเช้าวันอังคารที่ผ่านมา (29 ส.ค.) อีกทั้งความกังวลสถานการณ์เศรษฐกิจ และการเมืองสหรัฐฯ หลังประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทรัมป์ โจมตีแกนนำสภาคองเกรสประเด็นการเพิ่มเพดานหนี้ และ Fund Flow ต่างชาติผันผวน ตั้งแต่เดือน ส.ค. แต่ Net Sell ลดลงเหลือราว 6 พันล้านบาทเศษ
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัจจัยที่ต้องจับตา ได้แก่ วันที่ 30 ส.ค. สหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือน ส.ค. และตัวเลข GDP Q2/2560 (ประมาณการครั้งที่ 2) ส่วนสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลังของประเทศไทย วันที่ 31 ส.ค. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย วันที่ 1 ก.ย. จีน เปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต ส.ค. และระหว่าง 1-7 ก.ย. ประมูลรถไฟรางคู่
ด้านนายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล. โกลเบล็ก กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้มีปัจจัยบวกและลบที่คละเคล้า โดยปัจจัยบวกสถานการณ์การเมืองภายในประเทศที่ไม่มีความรุนแรงภายหลังการตัดสินโครงการจำนำข้าว รวมถึงเวิลด์แบงก์ คาดเศรษฐกิจไทยปี 61 เพิ่มขึ้น 3.6%
อย่างไรก็ตาม แรงกดดันจากความกังวลคาบสมุทรเกาหลี รวมถึง Fund Flow ต่างชาติที่เป็น Net Sell ตั้งแต่ต้นเดือน ส.ค. ราว 6 พันล้านบาทเศษ เป็นแรงกดดัน ดังนั้น ประเมินว่า SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,600-1,620 จุด
ทั้งนี้ แนะนำซื้อสะสม หุ้นกลุ่มรับเหมา ได้แก่ CK อานิสงส์จากงานประมูลรถไฟรางคู่ 3 เส้นทาง มูลค่าราว 5.5 หมื่น ลบ. ในช่วง 2 สัปดาห์นี้ รวมถึง BANPU ราคาถ่านหินทรงตัวในระดับสูง 97.6 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน
สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ นักวิเคราะห์การลงทุน บล. โกลเบล็ก เปิดเผยว่า ตลาดกลับมาจับตาความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีอีกครั้ง หลังการประชุมธนาคารกลางที่ Jackson Hole ไม่มีความชัดเจนใด ๆ เกี่ยวกับการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนตัวลงต่อ และส่งผลให้ราคาทองคำได้รับผลบวกในส่วนนี้ตามการแข็งค่าของเงินสกุลยูโร อีกทั้ง การที่เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธข้ามประเทศญี่ปุ่นไปตกลงในมหาสมุทรแปซิฟิกระหว่างการซ้อมรบร่วมเกาหลีใต้ กับสหรัฐฯ ทำให้กระแสเงินทุนไหลกลับเข้าถือครองสินทรัพย์ปลอดภัย ได้แก่ทองคำ จึงเป็นปัจจัยให้ราคาทะยานขึ้นเหนือระดับ 1,300 ดอลลาร์สหรัฐฯ และเข้าสู่ทิศทางขาขึ้นรอบใหม่
ทั้งนี้ คาดว่า ผลบวกดังกล่าวจะคงอยู่จนกว่าจะมีความชัดเจนว่า นานาชาติโดยเฉพาะสหรัฐฯ, จีน, ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ จะดำเนินการตอบโต้เกาหลีเหนืออย่างไร
นอกจากนี้ ความไร้เสถียรภาพของรัฐบาลสหรัฐฯ และระดับความเชื่อมั่นที่มีต่อประธานาธิบดีทรัมป์ ที่ลดน้อยถอยลง ยังคงเป็นปัจจัยเสริมสำหรับการคงแนวโน้มขาขึ้นรอบใหม่ของราคาทองคำ ทำให้แม้เงินบาทกลับมาแข็งค่า แต่ทองคำในประเทศยังได้รับผลบวกด้านราคา จึงแนะให้เก็งกำไรรอบสั้น และทยอยปิดทำกำไรเมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้น