ออริจิ้น ผนึกโนมูระ วางแผนรุกอสังหาฯ ครบวงจร นำร่องเฟสแรก 4 โครงการ มูลค่า 8,600 ล้านบาท เปิดขาย 3 โครงการแรกในเดือน ก.ย. มั่นใจกวาดยอดขายได้กว่า 50% ด้านประธานโนมูระ เรียลเอสเตทฯ ระบุให้ความสำคัญกับการลงทุนอสังหาฯ ในกรุงเทพฯ ใส่เม็ดเงินลงทุนสูงสุดในภูมิภาคเอเชีย
นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI กล่าวว่า บริษัทได้ร่วมลงทุนกับบริษัท โนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเม้นท์ จำกัด ประเทศญี่ปุ่น โดยการร่วมทุนในเฟสแรกจะพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมระดับพรีเมียมผ่าน 4 บริษัทย่อย จำนวน 4 โครงการ มูลค่า 8,600 ล้านบาท งบลงทุนประมาณ 2,000 ล้านบาท แบ่งเป็นในปี 60 ลงทุนเปิด 3 โครงการแรกกว่า 1,600 ยูนิต มูลค่าโครงการ 6,100 ล้านบาท ได้แก่ โครงการไนท์บริดจ์ ไพรม์ รัชโยธิน มูลค่า 1,600 ล้านบาท โครงการ ไนท์บริดจ์ ไพรม์ อ่อนนุช มูลค่า 2,500 ล้านบาท และโครงการ ไนท์บริดจ์ คอลลาจ รามคำแหง มูลค่า 2,000 ล้านบาท และ ในปี 2561 อีก 1 โครงการ มูลค่า 2,500 ล้านบาท
“ความร่วมมือกับโนมูระ เป็นดีลใหม่ที่เกิดขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมา ดีลของค่ายอื่นจะเป็นดีลด้านการเงินเป็นหลัก แต่ของออริจิ้น จะมีการโลโก้ของโนมูระเข้ามาร่วมอยู่ในโครงการ ซึ่งโนวน์ฮาว และนวัตกรรมสำคัญที่จะนำมาพัฒนาโครงการร่วมทุนจะใช้ภายใต้โครงการ Luxmore เป็นแนวทางการพัฒนาที่อยู่อาศัย ที่คำนึงถึงปัจจัยสำคัญต่อการใช้ชีวิตที่อยู่อาศัย 5 ด้าน ได้แก่ การสร้างสรรค์ไลฟ์สไตล์ที่สมบูรณ์ ความสะดวกในการใช้สอย การใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ดีไซน์ และการบำรุงรักษา ด้วยความเป็นจุดเด่นของแนวทางการดำเนินธุรกิจ บริษัทจึงได้นำแนวทางนี้มาใช้กับการพัฒนาโครงการใหม่ ๆ ที่ร่วมกัน”
ทั้งนี้ ทางบริษัทมีแผนนำ 3 โครงการร่วมทุนแรก และอีก 28 โครงการในทำเลใกล้รถไฟฟ้าของบริษัท เปิดการขายอย่างเป็นทางการในงาน “My Life My Origin” ณ แฟชั่น ฮอลล์ และรอยัล พารากอน ฮอลล์ ศูนย์การค้าสยาม พารากอน ในวันที่ 16-17 ก.ย. นี้ ทั้งนี้ คาดว่าจะมียอดขายภายในงานจาก 3 โครงการร่วมทุนที่ประมาณ 50% โดยหากร่วมโครงการร่วมทุนจะทำให้มูลค่าการเปิดโครงการทั้งปีนี้เพิ่มเป็นกว่า 18,000 ล้านบาท
นายเอย์จิ คุสึคาเขะ ประธานกรรมการ บริษัท โนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้วางแผนการเติบโตระยะกลาง-ยาว โดยเป็นเป้าหมายในปีงบประมาณ 2559-2567 ด้วยแผนการลงทุนในต่างประเทศภายใต้งบการลงทุนกว่า 3 แสนล้านเยน หรือประมาณ 90,600 ล้านบาท ซึ่งจะเน้นการลงทุนในเอเชียเป็นหลัก และไทยเป็นประเทศที่ 4 ของแผนขยายลงทุนอสังหาริมทรัพย์ มีมูลค่าการลงทุนสูงกว่า 10,000 ล้านเยน และมีสัดส่วนการถือหุ้นสูงสุด โดยก่อนหน้าได้ลงทุนบริษัทอสังหาฯ ในประเทศเวียดนาม ถือหุ้น 12.5% ประเทศจีน ถือหุ้น 30% และฟิลิปปินส์โครงการที่อยู่อาศัยและอาคารพาณิชย์เพื่อขายถือหุ้น 40%
“เราลงทุนในภูมิภาคเอเชียเป็นหลัก ซึ่งช่วงปี 58 เราได้ตัดสินใจขยายสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งประเทศไทยโดยพื้นที่กรุงเทพฯ ยังมีแนวโน้มการเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์อย่างมีเสถียรภาพได้ในระยะยาว เพราะกลุ่มผู้มีรายได้ปานกลาง ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง และยังเป็นช่วงที่อสังหาริมทรัพย์มีการเปลี่ยนผ่านจากการเติบโตเชิงปริมาณสู่การเติบโตเชิงคุณภาพ บริษัทจึงเห็นโอกาส และมีความสนใจ ในการเข้ามาลงทุน ได้ร่วมลงทุนกับบริษัทออริจิ้น ที่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาที่อยู่อาศัย และเป็นบริษัทอสังหาฯ ไทยที่มีดีเอ็นเอใกล้เคียงกับโนมูระ ทำให้ไปด้วยกันได้ ส่วนแผนลงทุนในนอกพื้นที่กรุงเทพฯ ตรงนี้อยู่ระหว่างการศึกษาร่วมกับทางผู้ร่วมทุนว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป”.