xs
xsm
sm
md
lg

“เมืองไทย ลิสซิ่ง” ยันฐานะแกร่งไม่ผิดชำระตั๋ว B/E และไม่ต้องเพิ่มทุนโปะหนี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“ชูชาติ เพ็ชรอำไพ” การันตี “เมืองไทย ลิสซิ่ง” ฐานะการเงินแข็งแกร่ง ชี้กระแสข่าวลือประเด็นจ่อผิดตั๋วเงิน B/E และจำเป็นต้องเพิ่มทุนโปะหนี้ไม่เป็นความจริง ย้ำปี 60 แนวโน้มสินเชื่อโต 50% ส่วนปี 61 โตต่ออีก 40% สอดคล้องกับทิศทางรายได้-กำไร พร้อมโชว์ปัจจุบัน NPL มีแค่ 1% และมีกันสำรองตามกฎหมายครบถ้วน ส่วน D/E อยู่ระดับ 2.9 เท่า ต่ำกว่าที่แบงก์กำหนดไว้ที่อัตรา 4 เท่า

นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทย ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ MTLS กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวลือในห้องค้าที่ระบุว่า บริษัทฯ ตกอยู่ในความเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้ตั๋วเงิน B/E ถึง 6,000 ล้านบาท อีกทั้งอาจจำเป็นต้องเพิ่มทุนจำนวนมากรองรับด้วย

ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า สถานการณ์ธุรกิจยังคงเป็นปกติ ฐานะการเงินแข็งแร่ง โดยมีตั๋วเงิน B/E ที่ใกล้ครบชำระอยู่ประมาณ 600 ล้านบาท ในงวดเดือนสิงหาคมนี้ แต่บริษัทฯ ก็ยังมีสภาพคล่องสูง รวมถึงมีวงเงินกับธนาคารหลายแห่ง รวมกว่า 5,000 ล้านบาท ซึ่งสามารถนำมาใช้ได้ทันที
 
สำหรับการออกขายหุ้นกู้ถือเป็นแผนระยะยาวที่วางไว้ และมีการขออนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นไว้แล้ว โดยปลายเดือนสิงหาคมนี้ จะมีการออกขายหุ้นกู้จำนวนหนึ่ง เบื้องต้น มีนักลงทุนแสดงความสนใจแล้วจำนวนมาก ขณะที่การเพิ่มทุนก็ยังไม่จำเป็นเช่นกัน เนื่องจากวงเงินในปัจจุบันถือว่าเพียงพอต่อการดำเนินธุรกิจ และการลงทุน

“เรื่องที่คนบอกว่า MTLS จะผิดนัดชำระหนี้จนต้องรีบออกขายหุ้นกู้ และต้องเพิ่มทุน คิดว่าน่าจะเกิดจากความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนมากกว่า ผลประกอบการไตรมาส 2/60 เราก็ออกมาโตดี มีกระแสเงินสดเป็นกำไรเพิ่มอีกถือว่าเราแข็งแกร่งกว่าเดิมด้วยซ้ำ ซึ่งหนี้ระยะสั้นที่เราใกล้ครบชำระก็ประมาณ 600 ล้านบาท เรามีวงเงินจากธนาคารซึ่งยังไม่ได้ใช้ถึง 5,000 ล้านบาทพอแน่นอน การออกหุ้นก็เป็นไปตามแผนเดิมที่กำหนดไว้นานแล้ว ไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไร” นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ กล่าว

พร้อมกันนี้ยังกล่าวเพิ่มว่า บริษัทฯ คงเป้ายอดปล่อยสินเชื่อใหม่ในปีนี้จะขยายตัว 50% จากปีก่อนปล่อยสินเชื่อ 37,000 ล้านบาท และปี 61 คาดจะขยายตัวที่ 40% โดยมั่นใจว่าครึ่งปีหลังนี้จะทำได้ดีกว่าครึ่งปีแรกที่ปล่อยสินเชื่อไปแล้ว 25,000 ล้านบาท ส่วนรายได้และกำไร มั่นใจว่าจะขยายตัวไปในทิศทางเดียวกัน

ด้านการควบคุมสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จะให้ไม่เกิน 1.5 เท่า ซึ่งปัจจุบัน บริษัทฯ มี NPL เพียง 1% เท่านั้น อีกทั้งมีการสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญไว้ 260% ของ NPL รวมถึงมีอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ระดับ 2.9 เท่า ต่ำกว่าอุตสาหกรรม

“ความเสี่ยงของบริษัทฯ มีน้อย เพราะสินเชื่อที่เราปล่อยออกไปมีคุณภาพดี NPL ยังต่ำกว่านโยบายที่วางไว้อยู่ และที่สำคัญเรามีการกันสำรองไว้ตามกฎหมายระบุทุกประการ ตัวเลข D/E วันนี้เราก็อยู่ที่ 2.9 เท่า ธนาคารให้เรามี D/E ได้สูงสุดถึง 4 เท่า ผมจึงย้ำว่าไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุนตามที่มีการเข้าใจกันผิดแต่ประการใด” นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น