น้ำตาลบุรีรัมย์ โชว์ผลงานไตรมาส 2 ทุบสถิติในประวัติศาสตร์ กำไรพุ่ง 540% ขณะรายได้ทะยาน 66% หลังบริษัททำราคาขายน้ำตาลทรายได้ดี สอดรับกับผลผลิตที่เพิ่มขึ้น พร้อมลุยเดินหน้าขอสร้างโรงไฟฟ้า SPP Hybrid Firm อีก 60 เมกะวัตต์ แถมข่าวดีจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 0.15 บาทต่อหุ้น
นายอนันต์ ตั้งตรงเวชกิจ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท น้ำตาลบุรีรัมย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BRR เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 2/60 บริษัทมีรายได้รวมที่ 2,001 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 66% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 1,208 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ 266 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 224 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 540% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 41.5 ล้านบาท และนับเป็นกำไรที่สูงสุดในประวัติการณ์
ส่งผลให้งวด 6 เดือนแรก บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 663.67 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 498.24 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 301.17% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 165.43 ล้านบาท โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นอยู่ที่ระดับ 28% เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ระดับ 20% ในการนี้บริษัทได้เสนอให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลการดำเนินงานงวดวันที่ 1 มกราคม-30 มิถุนายน 2560 ในอัตรา 0.15 บาทต่อหุ้น สำหรับหุ้นสามัญ จำนวน 812,099,845 หุ้น รวมเป็นจำนวนเงินที่จะจ่ายปันผลทั้งสิ้น 121,814,976.75 บาท
เนื่องจาก บริษัทสามารถทำสัญญาขายน้ำตาลล่วงหน้าในปีนี้สูงเฉลี่ยที่ 22 เซ็นต์ต่อปอนด์ นับว่าเป็นราคาที่ค่อนข้างน่าพอใจเมื่อเทียบกับปัจจุบันที่มีราคาเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 14-16 เซ็นต์ต่อปอนด์ ส่วนราคาเฉลี่ยปี 2559 ที่ประมาณ 16 เซ็นต์ต่อปอนด์ รวมถึงผลผลิตอ้อยก็เพิ่มจาก 2.06 ล้านตัน เป็น 2.21 ล้านตัน จากความสามารถในการเพิ่มผลผลิตต่อไร่ และค่าความหวาน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิผลการผลิต การพัฒนาศักยภาพเกษตรกรนักธุรกิจชาวไร่อ้อยตามปรัชญา “น้ำตาลสร้างในไร่” สำหรับปีการผลิต 2560/61 ที่จะถึงนี้ จากการสำรวจพื้นที่เพาะปลูกอ้อยทั้งหมดราว 240,000 ไร่ บริษัทค่อนข้างมั่นใจว่า ปริมาณอ้อยเข้าหีบจะแตะระดับ 2.8 ล้านตัน ทำให้จะมีผลผลิตน้ำตาลทรายราว 320,000 ตัน เทียบกับปีก่อนที่ปริมาณ 251,696 ตัน หรือเพิ่มขึ้นถึง 21%
นอกจากนี้ ธุรกิจโรงไฟฟ้า 2 แห่ง ประกอบด้วย บริษัท บุรีรัมย์พลังงาน จํากัด (BEC) และบริษัท บุรีรัมย์เพาเวอร์ จํากัด (BPC) ซึ่งเพิ่งจัดตั้งเป็นกองทุนโครงสร้างพื้นฐานน้ำตาลกลุ่มบุรีรัมย์ หรือ BRRGIF ยังสามารถเดินเครื่องได้เต็ม 100% บนกำลังการผลิตรวม 19.8 เมกะวัตต์ (MW) ในไตรมาส 2 นี้ ส่งผลให้บริษัทมีรายได้จากธุรกิจไฟฟ้า จำนวน 81.6 ล้านบาท
“แม้ว่าบริษัทจะจัดตั้ง BRRGIF ด้วยการขายสิทธิรายได้รายได้สุทธิจากการประกอบกิจการโรงไฟฟ้าทั้ง 2 ไปในช่วงไตรมาส 3 ซึ่งทำให้บริษัทได้รับกระแสเงินสดจากการระดมทุนทันทีราว 3,600 ล้านบาท แต่ตามหลักการบันทึกการรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าทั้ง 2 จะยังทยอยรับรู้ต่อเนื่อง ไม่หายไปจากงบการเงิน” นายอนันต์ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทจะนำเม็ดเงินจากการระดมทุนของ BRRGIF ลงทุนขยายธุรกิจที่เพิ่มมูลค่าให้กับบริษัท โดยในปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาทั้งในด้านการสร้างโรงงานแปรรูปเพิ่มมูลค่าน้ำตาลทราย โรงงานผลิตเอทานอล และโรงไฟฟ้าชีวมวล ขณะที่ล่าสุด บริษัทก็ได้ยื่นเสนอขอใบอนุญาตขายไฟฟ้า 3 โครงการบนพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ และสุรินทร์ จำนวนรวม 60 เมกะวัตต์ ในโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในแบบ SPP Hybrid Firm กับคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) แล้ว