โบรกฯ กรุงเก่า คาดหุ้นไทยยังคงผันผวนในกรอบที่จำกัด เนื่องจากหุ้นขนาดใหญ่ เช่น พลังงาน สื่อสาร และธนาคาร ยังพักตัว เงินลงทุนอาจใหลเข้ากลุ่มขนาดกลางและเล็ก แนะเลือกลงทุนหุ้นรายตัวที่มีผลประกอบการไตรมาส 2/2560 ออกมาดี และหุ้นที่ราคายังไม่ปรับตัวขึ้นมา เพิ่มทางเลือกเข้าสะสมหุ้นปันผลระหว่างกาล แนะจับตามผลการประชุมของ BoE เชื่อจะไม่กระทบการลงทุนหุ้นไทย
นายอาทิตย์ จันทร์สว่าง นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงภาพรวมการลงทุนในตลาดหุ้นไทยว่า ดัชนี SET Index จะยังผันผวนในกรอบจำกัด โดยหุ้นขนาดใหญ่ เช่น พลังงาน สื่อสาร และธนาคาร ที่ยังอยู่ในระยะพักตัว ส่งผลทำให้เม็ดเงินลงทุนน่าจะหมุนเวียนไปยังหุ้นขนาดกลางถึงเล็ก เพื่อเก็งกำไรงบผลประกอบการงวดไตรมาสที่ 2/2560 รวมถึงหุ้นในกลุ่มโรงพยาบาล ที่ราคายังไม่ปรับตัวขึ้นมา และเข้าสู่ช่วง High season ของธุรกิจ โดยวันนี้น่าจะเห็นการปรับขึ้นของกลุ่มโรงพยาบาลขนาดกลางถึงเล็ก ได้แก่ BCH, CHG ตาม BDMS และ BH ที่ปรับขึ้นไปแล้วก่อนหน้า
ขณะที่กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ยังคงเน้นการลงทุนหุ้นรายตัว โดยเลือกลงทุนหุ้นที่มีแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/2560 จะออกมาดี และราคาได้พักตัวมาแล้วในช่วงก่อนหน้า อาทิ ASIAN, BPP, BR, ORI, EA, MTLS, IHL, CBG, JMART*, SYNTEC*, PT*, กลุ่มโรงพยาบาล ได้แก่ BCH, CHG ที่เริ่มเข้าสู่ช่วง High Season ของธุรกิจ และอาจเลือกเข้าเก็บสะสมหุ้นกลุ่มที่จ่ายปันผลสูง และมีปันผลระหว่างกาล อาทิเช่น SCC, SCCC, ADVANC, LH, QH, KKP, MC
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของปัจจัยต่างประเทศที่ยังต้องจับตายังคงอยู่ที่การประชุมของธนาคารกลางแห่งประเทศอังกฤษ หรือ BoE ที่จะมีขึ้นในคืนนี้ว่า จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.25% ตามเดิมต่อไปหรือไม่ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในระดับต่ำ
ทั้งนี้ บล.กรุงศรีประเมินว่า BoE จะเลือกคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.25% ไว้เช่นเดิม แม้ว่าปัจจุบันอัตราเงินเฟ้อของอังกฤษจะเพิ่มขึ้น 2.6% ในเดือนมิถุนายนใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยในอดีตที่ระดับ 2.58% แต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่ยังเปราะบางและอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเจรจาเพื่อออกจากยูโรฯ หรือ Brexit ทำให้อังกฤษจำเป็นต้องคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายและคงอัตราดอกเบี้ยเพื่อประคองให้เศรษฐกิจฟื้นตัวเสียก่อน
