xs
xsm
sm
md
lg

บล. กสิกรไทย คาดเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังยังฟื้นตัวไม่ทั่วถึง ท่องเที่ยว ลงทุนภาครัฐ และส่งออกฟื้น แต่การบริโภคและลงทุนภาคเอกชนยังชะลอ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


บล. กสิกรไทย ประเมินตัวเลขการส่งออกเดือนมิถุนายน 2560 ออกมาเติบโตกว่าที่คาด มูลค่าการส่งออกแตะ 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ได้เป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 ปี แต่รายได้ภาคเกษตรเริ่มชะลอตัวลง ตามรายได้นอกภาคเกษตรที่ติดลบตั้งแต่ต้นปี นักวิเคราะห์มองเป็นสัญญาณแสดงถึงการฟื้นตัวแบบกระจุกตัว

นายกำพล อดิเรกสมบัติ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตัวเลขเศรษฐกิจเดือนมิถุนายน ที่ทยอยประกาศในช่วงที่ผ่านมา ยังส่งสัญญาณการฟื้นตัวที่ค่อนข้างกระจุกตัว ตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เติบโตได้ 11% ได้แรงหนุนหลักจากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีน มาเลเซีย และตะวันออกกลาง สำหรับตัวเลขส่งออกที่โตขึ้น 11.7% ส่งสัญญาณที่ดี คือ มีมูลค่าการส่งออกแตะระดับ 2.0 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่การฟื้นตัวยังกระจุกตัวอยู่ในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ และกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์เป็นหลัก โดยเฉพาะกลุ่มยางพารา และฮาร์ดดิสก์ (HDD) ขณะที่การส่งออกยานยนต์ และสินค้าแผนวงจรรวม (IC) เริ่มส่งสัญญาณชะลอตัว สำหรับในช่วงครึ่งหลังของปี เรามองว่า การฟื้นตัวของส่งออกไทยน่าจะเริ่มชะลอตัวลง เนื่องจาก
 
1. สัญญาณการชะลอตัวของสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจมาตลอดในช่วงครึ่งปีแรก

2. การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมเริ่มชะลอตัวลง ทั้งอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และรถยนต์

3. ปัจจัยสนับสนุนเรื่องฐานต่ำจะเริ่มหายไปตั้งแต่เดือนสิงหาคม เป็นต้นไป

สำหรับอุปสงค์ในประเทศยังได้รับปัจจัยกดดันจากรายได้นอกภาคเกษตรที่ไม่โตมาตั้งแต่ต้นปี (-1%ในช่วง 5 เดือนแรก) รวมถึงรายได้ภาคเกษตรที่เริ่มส่งสัญญาณชะลอตัวลง (อัตราการเติบโต 6% เมื่อเทียบกับ 19% ในช่วง 5 เดือนแรก) โดยจากแนวโน้มราคาสินค้าเกษตรหลัก คือ ข้าว และยางพารา ในตลาดโลก น่าจะเป็นปัจจัยหลักที่กดดันให้รายได้เกษตรกรในช่วงครึ่งปีหลังชะลอตัวลงด้วย

อย่างไรก็ตาม บล. กสิกรไทย ยังมีมุมมองที่เป็นบวกกับการลงทุนภาครัฐ และเชื่อว่า ตัวเลขเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง จะทำให้รัฐบาลเร่งการประมูล และการเบิกจ่าย โครงการลงทุนภาครัฐมากขึ้น สำหรับการฟื้นตัวของการลงทุนภาคเอกชนนั้นยังเป็นไปอย่างช้า ๆ โดยปัจจัยสำคัญ คือ ต้องเห็น พ.ร.บ.โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ  EEC ออกมาบังคับใช้เป็นกฎหมาย ซึ่งน่าจะทำให้ความมั่นใจของนักลงทุนต่างประเทศเริ่มกลับมาก และน่าจะส่งผลให้ FDI และการลงทุนภาคเอกชนตามมาเป็นลำดับ โดยจากการศึกษาของ บล. กสิกรไทย พบว่า เมื่อ FDI กลับมา จะเห็นการฟื้นตัวของการลงทุนภาคเอกชนตามมาภายใน 3-4 ไตรมาส

สำหรับปัจจัยเรื่องเงินเฟ้อในปีนี้ มองว่าด้วยราคาน้ำมันที่ชะลอตัวลง ทำให้เชื่อได้ว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของปี 2560 น่าจะอยู่ที่เพียง 0.7-0.8% ซึ่งจะทำให้เงินเฟ้อทั่วไปต่ำกว่ากรอบล่างของกรอบเงินเฟ้อ (1-4%) เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน และด้วยเงินเฟ้อที่ค่อนข้างต่ำ บวกกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ยังไม่ทั่วถึง อัตราดอกเบี้ยนโยบายน่าจะถูกเก็บไว้ที่ระดับปัจจุบันที่ 1.5% ไปจนถึงกลางปี 2561 โดยประเมินว่า อัตราการเติบโตของ GDP ปี 2560 จะอยู่ทีระดับ 3.4-3.5% และปี 2561 อยู่ที่ระดับ 3.6-3.7%
กำลังโหลดความคิดเห็น