บมจ. เอคิว เอสเตท ยืนยันการเลื่อนอ่านคำพิพากษาคดีแพ่งระหว่าง “โกลเด้นฯ” กับแบงก์กรุงไทย ไม่กระทบต่อการดำเนินงาน และแผนการกลับมาซื้อขายในตลาดหุ้นรอบใหม่ ระบุการเจรจาแก้ปัญหาหนี้กับแบงก์กรุงไทยมีสัญญาณที่ดี พร้อมตั้งทีมศึกษาการพัฒนาที่ดิน 4.3 พันไร่
บริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ AQ รายงานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ถึงความคืบหน้าในคดีแพ่งของบริษัท โกลเด้น เทคโนโลยี อินดัสเทรียลพาร์ค จำกัด กับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ว่า ทนายความของบริษัท โกลเด้นฯ ได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนการอ่านคำพิพากษา อ้างว่า บริษัท โกลเด้นฯ และบริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด (มหาชน) เดิมมีภาระหนี้ตามคำพิพากษาในดีหมายเลขแดงที่ อม.55/2558 ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งนักทางการเมือง ซึ่งเป็นหนี้จำนวนเดียวกัน โดยผู้บริหารของบริษัทโกลเด้นฯ และผู้บริหารบริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมกันเจรจา และตกลงประนีประนอม โดยบรรลุข้อตกลงในการเจรจาประนีประนอมยอมความกันแล้ว เพียงแต่รอการทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ในการผ่อนชำระหนี้ตามคำพิพากษาในคดีนี้เท่านั้น
ทั้งนี้ ผู้บริหารของธนาคารกรุงไทย (โจทก์) ตกลงร่วมกันที่จะขอเลื่อนกำหนดอ่านคำพิพากษาของศาลออกไปอีกหนึ่งนัดเพื่อให้การปรับโครงสร้างหนี้เป็นไปอย่างราบรื่น ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยที่ 1 มีความประสงค์ที่จะประนีประนอมยอมความกับโจทก์ จึงเห็นสมควรอนุญาตให้เลื่อนคดีโดยนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 28 กันยายน 2560
“แม้การอ่านคำพิพากษาของศาลจะเลื่อนออกไป แต่ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัท หรือการกลับมาซื้อขายอีกครั้ง ซึ่งบริษัทฯ ยืนยืนว่ามีสัญญาณดีให้เห็น หลังจากการเข้าเจรจาหลายครั้งกับธนาคารกรุงไทย จึงทำให้บริษัทฯ ตั้งทีมพิเศษขึ้นมาเพื่อศึกษาข้อมูลเรื่องที่ดิน 4,300 ไร่ ว่าควรจะพัฒนาไปในทิศทางใด หรือพัฒนาร่วมกับใครดีเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด”
สำหรับการเลื่อนอ่านคำพิพากษาในคดีแพ่งนั้น สืบเนื่องจากนายวิรัตน์ เอี้ยวอักษร ในฐานะกรรมการ บริษัท โกลเด้นเทคโนโลยี อินดัสเทรียล พาร์ค จำกัด (โกลเด้นฯ) ซึ่งเป็นไปตามสัญญาจัดการทรัพย์สิน และแบ่งผลประโยชน์ ลงวันที่ 16 ตุลาคม 2558 ได้เข้าฟังคำพิพากษาคดีแพ่ง คดีหมายเลขดำที่ ธ.268/2549 และคดีหมายเลขแดงที่ ธ.2687/2550 ที่โจทก์ คือ ธนาคารกรุงไทย ฟ้อง บริษัท โกลเด้น เทคโนโลยี อินดัสเทรียล พาร์ค จำกัด และพวก 4 รายเป็นทุนทรัพย์ 10,234,752,863.31 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ของต้นเงิน 8,368,732,100 บาท
โดยทนายความของบริษัท โกลเด้นฯ ยื่นคำร้องขอเลื่อนการอ่านคำพิพากษา อ้างว่า บริษัท โกลเด้นฯ และ บมจ. เอคิว เอสเตท เดิมมีภาระหนี้ตามคำพิพากษาในคดีหมายเลขแดงที่ อม.55/2558 ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งนักทางการเมือง ซึ่งเป็นหนี้จำนวนเดียวกัน โดยผู้บริหารของบริษัท โกลเด้นฯ และผู้บริหาร บมจ. อคิว เอสเตท ได้ร่วมกันเจรจา และตกลงประนีประนอม โดยบรรลุข้อตกลงในการเจรจาประนีประนอมยอมความกันแล้ว เพียงแต่รอการทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ในการผ่อนชำระหนี้ตามคำพิพากษาในคดีนี้เท่านั้น
ผู้บริหารของธนาคารกรุงไทย โจทก์ ตกลงร่วมกันที่จะขอเลื่อนกำหนดอ่านคำพิพากษาของศาลออกไปอีกหนึ่งนัด เพื่อให้การปรับโครงสร้างหนี้เป็นไปอย่างราบรื่น ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยที่ 1 มีความประสงค์ที่จะประนีประนอมยอมความกับโจทก์ จึงเห็นสมควรอนุญาตให้เลื่อนคดี โดยนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 28 กันยายน 2560