ปลัดคลัง เผยผลการติดตั้งเครื่องรูดบัตรเดบิตเป็นไปตามเป้า โดยปัจจุบันผู้ได้รับสิทธิจากคลังทั้ง 2 กลุ่ม สามารถวางเครื่องรับรูดบัตรแล้ว 1.5 แสนเครื่อง หรือเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนอีก 4 หมื่นเครื่อง พร้อมระบุให้ทั้ง 2 กลุ่มเร่งขยายการติดตั้งเครื่อง EDC เชิงรุกร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อเข้าไปติดตั้งเครื่องฟรีให้แก่ร้านค้าในแหล่งกิน-แหล่งชอป หวังสร้างจุดเด่นให้แต่ละจังหวัดเป็น Smart City
นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวถึงความคืบหน้าในการติดตั้งเครื่องรับบัตรชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ (EDC) ตามแหล่งร้านค้าต่าง ๆ ภายใต้โครงการ National e-Payment ว่า ปัจจุบัน ผู้มีสิทธิให้บริการวางอุปกรณ์รับชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 2 ราย คือ กลุ่ม Consortium และกลุ่มการค้าร่วมโครงการ e-Payment สามารถติดตั้งเครื่องตามร้านค้าต่าง ๆ ได้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และเป็นไปตามเป้าหมาย
โดยปัจจุบัน ทั้ง 2 กลุ่มได้ดำเนินการติดเครื่อง EDC ไปแล้วทั้งสิ้น 150,000 เครื่อง ซึ่งเพิ่มขี้นจากเดือน มิ.ย. ที่เคยติดตั้งเครื่อง ECD ได้ 110,000 เครื่อง แต่หากพิจาณาเป็นจำนวนร้านค้าที่ได้รับการติดตั้งเครื่อง EDC เพิ่มขึ้นรวมกันทั้งสิ้น 90,000 ราย ทั้งนี้ ตามสัญญากำหนดให้ธนาคารพาณิชย์จะต้องดำเนินการติดตั้งเครื่อง EDC ทั้งในส่วนราชการ และเอกชน ให้ครบ 560,000 เครื่องเมื่อถึงปี 2561
ด้านยอดการใช้บริการบัตรเดบิตในปัจจุบันนั้น ปลัดกระทรวงการคลังถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง เนื่องจากมีการทำรายการผ่านบัตรเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยรวมกัน 5,500,000 รายการต่อเดือน หรือคิดเป็นสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นราว 30% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ขณะเดียวกัน มูลค่าการใช้บัตรโดยเฉลี่ยได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 90,000 ล้านบาทต่อเดือน มาอยู่ที่ 10,000 ล้านบาทต่อเดือน โดยมีจำนวนบัตรเดบิตทั้งสิ้น 54.2 ล้านใบ
ปลัดกระทรวงการคลัง ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ยังมีสิ่งที่กระทรวงการคลังจะดำเนินการต่อไปเพื่อสนับสนุนการขยายจำนวนการติดตั้งเครื่อง EDC โดยตนได้กำหนดให้ธนาคารพาณิชย์แต่ละแห่งไปทำนโยบายเพื่อส่งเสริมการขยายการติดตั้งเครื่อง EDC เชิงรุกร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อเข้าไปติดต่อวางเครื่อง EDC ให้ฟรีแกร้านค้าที่ตั้งอยู่ในตลาดสด หรือบนถนน ซึ่งมีการเปิดท้ายขายของที่มีระยะทาง 1-2 กิโลเมตร หรือตามแหล่งร้านค้าขายอาหารข้างทางที่มีนักท่องเที่ยวนิยมไปจับจ่ายใช้สอยซื้ออาหารกินกันก็ได้ รวมทั้งกำหนดให้มีการประกาศด้วยว่า ในจังหวัดของตนนั้น มีแหล่งซื้อขายสินค้าแห่งใดบ้างที่สามารถเอาบัตรเดบิตมาแตะ เพื่อซื้อสินค้าได้โดยไม่ต้องใช้เงินสด ซึ่งจะเป็นการสร้างจุดเด่นของแต่ละจังหวัดให้กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่เป็นอัจฉริยะ (Smart City)
โดยกระทรวงการคลัง คาดว่า การดำเนินนโยบายเชิงรุกดังกล่าวน่าจะประสบความสำเร็จได้ในระดับหนึ่ง เนื่องจากเป็นประโยชน์แก่ตัวจังหวัดเองด้วย ปลัดกระทรวงการคลังยังย้ำว่า ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในสัญญาติดตั้งเครื่อง EDC กำหนดให้ผู้ที่ได้รับสิทธิวางเครื่องจากกระทรวงการคลังต้องจัดทำนโยบายส่งเสริมการขาย (Promotion) นอกจากเหนือจากการแจกรางวัลในโครงการการใช้บัตรเดบิตสำหรับร้านค้าที่ติดเครื่อง EDC และผู้ใช้บัตรเดบิตจากรัฐบาลด้วย ซึ่งธนาคารพาณิชย์แต่ละแห่งกำลังดำเนินการอยู่ โดยแต่ละรายเริ่มที่จะมีโปรโมชันต่าง ๆ เช่น แจกรางวัลเป็นทองคำหรือรถยนต์ เป็นต้น โดยตนมองว่า ทั้งร้านค้า และผู้ใช้บัตรเดบิต ต่างก็มีโอกาสอย่างมากที่จะได้รับรางวัล เนื่องจากเครื่อง EDC ในปัจจุบันยังไม่มาก
นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวถึงความคืบหน้าในการติดตั้งเครื่องรับบัตรชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ (EDC) ตามแหล่งร้านค้าต่าง ๆ ภายใต้โครงการ National e-Payment ว่า ปัจจุบัน ผู้มีสิทธิให้บริการวางอุปกรณ์รับชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 2 ราย คือ กลุ่ม Consortium และกลุ่มการค้าร่วมโครงการ e-Payment สามารถติดตั้งเครื่องตามร้านค้าต่าง ๆ ได้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และเป็นไปตามเป้าหมาย
โดยปัจจุบัน ทั้ง 2 กลุ่มได้ดำเนินการติดเครื่อง EDC ไปแล้วทั้งสิ้น 150,000 เครื่อง ซึ่งเพิ่มขี้นจากเดือน มิ.ย. ที่เคยติดตั้งเครื่อง ECD ได้ 110,000 เครื่อง แต่หากพิจาณาเป็นจำนวนร้านค้าที่ได้รับการติดตั้งเครื่อง EDC เพิ่มขึ้นรวมกันทั้งสิ้น 90,000 ราย ทั้งนี้ ตามสัญญากำหนดให้ธนาคารพาณิชย์จะต้องดำเนินการติดตั้งเครื่อง EDC ทั้งในส่วนราชการ และเอกชน ให้ครบ 560,000 เครื่องเมื่อถึงปี 2561
ด้านยอดการใช้บริการบัตรเดบิตในปัจจุบันนั้น ปลัดกระทรวงการคลังถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง เนื่องจากมีการทำรายการผ่านบัตรเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยรวมกัน 5,500,000 รายการต่อเดือน หรือคิดเป็นสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นราว 30% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ขณะเดียวกัน มูลค่าการใช้บัตรโดยเฉลี่ยได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 90,000 ล้านบาทต่อเดือน มาอยู่ที่ 10,000 ล้านบาทต่อเดือน โดยมีจำนวนบัตรเดบิตทั้งสิ้น 54.2 ล้านใบ
ปลัดกระทรวงการคลัง ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ยังมีสิ่งที่กระทรวงการคลังจะดำเนินการต่อไปเพื่อสนับสนุนการขยายจำนวนการติดตั้งเครื่อง EDC โดยตนได้กำหนดให้ธนาคารพาณิชย์แต่ละแห่งไปทำนโยบายเพื่อส่งเสริมการขยายการติดตั้งเครื่อง EDC เชิงรุกร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อเข้าไปติดต่อวางเครื่อง EDC ให้ฟรีแกร้านค้าที่ตั้งอยู่ในตลาดสด หรือบนถนน ซึ่งมีการเปิดท้ายขายของที่มีระยะทาง 1-2 กิโลเมตร หรือตามแหล่งร้านค้าขายอาหารข้างทางที่มีนักท่องเที่ยวนิยมไปจับจ่ายใช้สอยซื้ออาหารกินกันก็ได้ รวมทั้งกำหนดให้มีการประกาศด้วยว่า ในจังหวัดของตนนั้น มีแหล่งซื้อขายสินค้าแห่งใดบ้างที่สามารถเอาบัตรเดบิตมาแตะ เพื่อซื้อสินค้าได้โดยไม่ต้องใช้เงินสด ซึ่งจะเป็นการสร้างจุดเด่นของแต่ละจังหวัดให้กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่เป็นอัจฉริยะ (Smart City)
โดยกระทรวงการคลัง คาดว่า การดำเนินนโยบายเชิงรุกดังกล่าวน่าจะประสบความสำเร็จได้ในระดับหนึ่ง เนื่องจากเป็นประโยชน์แก่ตัวจังหวัดเองด้วย ปลัดกระทรวงการคลังยังย้ำว่า ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในสัญญาติดตั้งเครื่อง EDC กำหนดให้ผู้ที่ได้รับสิทธิวางเครื่องจากกระทรวงการคลังต้องจัดทำนโยบายส่งเสริมการขาย (Promotion) นอกจากเหนือจากการแจกรางวัลในโครงการการใช้บัตรเดบิตสำหรับร้านค้าที่ติดเครื่อง EDC และผู้ใช้บัตรเดบิตจากรัฐบาลด้วย ซึ่งธนาคารพาณิชย์แต่ละแห่งกำลังดำเนินการอยู่ โดยแต่ละรายเริ่มที่จะมีโปรโมชันต่าง ๆ เช่น แจกรางวัลเป็นทองคำหรือรถยนต์ เป็นต้น โดยตนมองว่า ทั้งร้านค้า และผู้ใช้บัตรเดบิต ต่างก็มีโอกาสอย่างมากที่จะได้รับรางวัล เนื่องจากเครื่อง EDC ในปัจจุบันยังไม่มาก
