“ทีวี ไดเร็ค” เปิดแผนปั้น “ลาสไมล์ ไดเร็ค” บริษัทในเครือ ขยายธุรกิจบริหารคลังสินค้า และการจัดส่งแบบครบวงจร (Fulfillment and Delivery) เจาะกลุ่มลูกค้าทั่วไปทั้งกลุ่มผู้ประกอบการ และลูกค้ารายย่อย จากเดิมที่ให้บริการส่งสินค้าให้แก่บริษัทแม่เป็นหลัก ชูจุดแข็งพร้อมให้บริการส่งสินค้าชิ้นใหญ่ที่มีน้ำหนักมากกว่า 20 กก. และมีบริการคลังเก็บสินค้า รวมถึงการจัดส่งสินค้าพร้อมเก็บเงินปลายทาง ตั้งเป้าปีแรกมีสัดส่วนรายได้จากลูกค้าภายนอก 30% ของรายได้รวม และติดอันดับท็อปเท็นในธุรกิจ Fulfillment and Delivery
นายทรงพล ชัญมาตรกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) หรือ TVD ผู้นำธุรกิจจำหน่ายสินค้าและบริการผ่านช่องทางการตลาดหลากหลายช่องทาง (Multi-Screen) เปิดเผยว่า บริษัทฯ วางแผนผลักดันบริษัท ลาสไมล์ ไดเร็ค จำกัด (Last Mile Direct Co.,Ltd) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของทีวี ไดเร็ค ที่ถือหุ้น 100% ให้ก้าวสู่บริษัท 1 ใน 10 ของธุรกิจบริหารคลังสินค้าและการจัดส่งแบบครบวงจร (Fulfillment and Delivery) ที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า โดยชูศักยภาพและความพร้อมด้านการขยายธุรกิจบริหารคลังสินค้า และการจัดส่งแบบครบวงจร เพื่อให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าทั่วไป ทั้งที่เป็นผู้ประกอบการในภาคธุรกิจต่าง ๆ และลูกค้ารายย่อย จากเดิมที่ให้บริการจัดส่งสินค้าแก่ทีวีไดเร็ค และทีวีดี ช้อปปิ้ง (ทีวีดีโมโม่) เป็นหลัก
สำหรับแผนขยายธุรกิจครั้งนี้ ลาสไมล์ ไดเร็ค จะใช้ความเชี่ยวชาญจากประสบการณ์จัดส่งสินค้าให้แก่บริษัทแม่ นำมาต่อยอดในการให้บริการลูกค้าทั่วไป โดยปัจจุบัน ลาสไมล์ ไดเร็ค ให้บริการจัดส่งสินค้าแก่บริษัทแม่เฉลี่ย 1.3 แสนออเดอร์ต่อเดือน หรือปีละกว่า 1.5 ล้านออเดอร์ ประกอบกับบริษัทฯ มีรถบริการรถ 6 ล้อ และรถปิกอัปสำหรับจัดส่งสินค้ามากกว่า 150 คัน และยังมีพันธมิตรที่เข้ามาช่วยเสริมด้านการจัดส่งสินค้าอย่างเพียงพอ รวมถึงมีศูนย์ให้บริการและจุดพักสินค้า (Hub) กระจายอยู่ทั่วทุกภาคของประเทศรวม 36 แห่ง จึงสามารถให้บริการลูกค้าได้ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
ทั้งนี้ ลาสไมล์ ไดเร็ค มีการให้บริการ 3 ส่วน ได้แก่ 1. การให้บริการคลังเก็บสินค้าในย่านบางนา ซึ่งครอบคลุมการจัดการสินค้าคงคลัง การประมวลผลคำสั่งซื้อ และบริการบรรจุหีบห่อ 2. บริการขนส่งสินค้าสำหรับกลุ่ม B2B และ 3. บริการเพิ่มเติมแบบครบวงจรสำหรับกลุ่ม B2C อาทิ การจัดส่งสินค้าพร้อมเก็บเงินปลายทาง การตรวจสอบสถานะจัดส่ง ฯลฯ และยังสามารถให้บริการจัดส่งสินค้าที่มีขนาดเล็กจนถึงขนาดใหญ่ที่มีน้ำหนักมากกว่า 20 กิโลกรัมต่อชิ้น เช่น ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ พร้อมทั้งมีบริการประกอบสินค้า ซึ่งถือเป็นความแตกต่างด้านการให้บริการจากคู่แข่งในธุรกิจประเภทเดียวกัน
นายทรงพล กล่าวว่า จากแผนดำเนินงานครั้งนี้เชื่อมั่นว่าจะผลักดันให้ ลาสไมล์ ไดเร็ค เติบโตและยกระดับสู่การเป็น Profit Center ที่สามารถสร้างผลกำไรที่ดี หลังมองเห็นโอกาสการเติบโตของธุรกิจให้บริการจัดส่งสินค้าที่ได้รับปัจจัยบวกจากภาคธุรกิจอี-คอมเมิร์ชที่กำลังขยายตัวในประเทศไทย โดยประเมินว่า ภาพรวมธุรกิจบริหารคลังสินค้าและการจัดส่งแบบครบวงจรในปีที่ผ่านมา มีมูลค่าตลาดรวมไม่ต่ำกว่า 3,600 ล้านบาท และมีไปรษณีย์ไทยซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจที่ครองส่วนแบ่งการตลาดสูงสุด รวมถึงมีผู้ประกอบการเอกชนทั้งไทย และต่างชาติ ที่อยู่ในตลาดอีกหลายราย
“เราตั้งเป้าว่า ลาสไมล์ ไดเร็ค จะมีรายได้จากลูกค้าทั่วไปคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 30% ของรายได้รวมภายใน 1 ปี และเพิ่มสัดส่วนเป็น 50% ของรายได้ภายใน 2 ปี โดยมีแผนสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก และก้าวสู่การเป็นผู้ประกอบการชั้นนำในธุรกิจบริหารคลังสินค้าและการจัดส่งแบบครบวงจร หรือ Fulfillment and Delivery” นายทรงพล กล่าว